ศาสนา-ศิลปวัฒนธรรม

กรมศิลปากรเสริมพลังเครือข่ายอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมเขตภาคกลาง

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ .. 2567 เวลา 08.45 . นายพนมบุตร จันทรโชติอธิบดี       กรมศิลปากร  เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมเขตภาคกลาง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยานครนายก สระบุรี อ่างทอง และสิงห์บุรี โดยมีอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) พระสังฆาธิการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดและอำเภอ และผู้แทนส่วนราชการในเขตพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมกว่า 300 คน โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


 

 

 

 

 

ปากรกล่าวว่า กรมศิลปากรมีแนวนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนองค์กรภาครัฐและ

เอกชน เข้ามาเป็นเครือข่ายและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยมีแนวทางและมาตรฐานในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมด้านโบราณสถาน ศิลปกรรมในเขตโบราณสถาน และโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุตลอดจนมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น เอกสารโบราณ จดหมายเหตุ จึงจัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในคุณลักษณะ คุณค่าและความสำคัญของมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่มีต่อชาติและท้องถิ่น รวมถึงกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับงานดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมภายใต้หน้าที่และความรับผิดชอบของกรมศิลปากร สร้างความตระหนักในบทบาทหน้าที่เครือข่ายมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่มีต่อการดำเนินงานร่วมกันและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น

สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมเขตภาคกลาง ประจำปี

งบประมาณ .. 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 23 กุมภาพันธ์ 2567 นอกจากจะมีการบรรยายโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ยังมีการศึกษาดูงานโบราณสถานในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเขตภาคกลางเป็นแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมสำคัญโดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีโบราณสถานไม่ต่ำกว่า 300 แห่ง และได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกในชื่อนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO) อีกทั้งยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน ความร่วมมือร่วมใจของภาคส่วนต่าง ทั้งฝ่ายสงฆ์ ท้องถิ่น ชุมชน และภาคสังคมที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์โบราณสถานที่ถูกต้องเหมาะสม อันเป็นสาธารณสมบัติของชาติให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเครือข่าย ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ตลอดจนภาคเศรษฐกิจ ทั้งในระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับประเทศ

สมาน สุดโต รายงาน

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า