กรมศิลปากรถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ วัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (วันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕) เวลา ๑๐.๐๐ น นายพนมบุตร จันทรโชติอธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ วัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหาร ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้กรมศิลปากร
ตามที่ขอพระราชทานไปทอดถวายที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหารตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน๒๕๖๕ เวลา ๑๙.๐๐ น.กรมศิลปากร ได้จัดการแสดงโขน เรื่อง “รามเกียรติ์ ตอนศึก โรมคัลทศกัณฐ์พ่าย” สมโภชองค์พระกฐิน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ ชื่นชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงอย่างหนึ่งของไทย ณ โรงเรียนวัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหาร และถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ในวันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. พร้อมทั้งบริจาคปัจจัยนำเข้าสมทบถวายบำรุง พระอารามหลวงณ วัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหาร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒,๗๗๗,๕๕๘.๕๐ บาท (สองล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยห้าสิบแปดบาทห้าสิบสตางค์) นอกจากนี้ กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์หนังสือ ปกิณกศิลปวัฒนธรรม เล่มที่ ๒๘ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นหนังสือที่ระลึกในโอกาสที่กรมศิลปากรนำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายและเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชนผู้ร่วมกิจกรรมกับกรมศิลปากร มีเนื้อหาว่าด้วยความเป็นมาของวัดชุมพลนิกายาราม ราชวรวิหาร ประวัติศาสตร์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสถานที่สำคัญ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ตลอดจนภารกิจของกรมศิลปากรในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นความรู้ให้ผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
กฐินพระราชทาน เป็นกฐินหลวงประเภทหนึ่งที่พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้แก่หน่วยงานราชการ องค์กร คณะบุคคลหรือบุคคลผู้ประสงค์ขอรับพระราชทานเชิญไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวง ทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดในช่วงกฐินกาล โดยการทอดกฐิน เป็นประเพณีสำคัญทางศาสนาที่พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติและสืบทอดมายาวนาน ช่วงเวลาในการทอดกฐินกำหนดระยะเวลา ๑ เดือน หลังวันออกพรรษา ระหว่างวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ของทุกปี ถือเป็นการทำนุบำรุงสืบทอดพระพุทธศาสนา และบำเพ็ญกุศลอันยิ่งใหญ่ ก่อให้เกิดอานิสงส์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส
สำหรับวัดชุมพลนิกายาราม เดิมชื่อว่าวัดชุมพล สันนิษฐานว่าสร้างใน พ.ศ. ๒๑๗๕ สมัยสมเด็จ
พระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ในบริเวณนิวาสสถานเดิมของพระบรมราชชนนีเพื่อเป็นพระอารามสำหรับพระราชวังบางปะอิน ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผาติกรรมพระนารายณ์ราชนิเวศน์ พร้อมกับปฏิสังขรณ์วัดเสนาสนาราม วัดกวิศราราม และวัดชุมพล พร้อมทั้งพระราชทานนามพระอารามเสียใหม่ว่า “วัดชุมพลนิกายาราม” และอัญเชิญพระราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ประดิษฐาน ณ หน้าบันพระอุโบสถ หน้าบันวิหาร และเบื้องหลังพระประธานในพระอุโบสถ ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจัดระเบียบพระอารามหลวงเสียใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ วัดชุมพลนิกายารามถูกจัดเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดชุมพลนิกายารามเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๘ และได้กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน วัดชุมพลนิกายารามและสะพานข้ามคลองบ้านเลน จำนวน ๒๐ไร่ ๒ งาน๙๑ ตารางวา เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗
โดย อารามชรา