รมต.อนุชา ลงพื้นที่ชัยนาท ดันโครงการ DIPROM ตัวช่วยยกระดับสินค้าชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดโครงการ “DIPROM ยกระดับสินค้าชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก นำสู่รายได้คืนถิ่นชุมชน” ที่หอประชุมโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม อําเภอเมืองจังหวัดชัยนาท จัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นางฉลอง สงล่า นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท เข้าร่วม
นายอนุชา กล่าวว่า โครงการ “DIPROM ยกระดับสินค้าชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก นําสู่รายได้คืนถิ่นชุมชน” เป็นโครงการสัญจรไปยังจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ไปยัง จ.สุโขทัย จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ และในวันนี้มีการลงพื้นที่จ.ชัยนาท เป็นจังหวัดที่ 4 โดยมีเป้าหมายช่วยฟื้นฟูและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เสริมสร้างทักษะด้านกระบวนการผลิต เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ประชาชนในอนาคต โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามฐานการเรียนรู้ 4 ฐาน ประกอบด้วย ฐานที่ 1 การทําไม้กวาดดอกหญ้า ฐานที่ 2 การทําไม้กวาดทางมะพร้าว ฐานที่ 3 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า และฐานที่ 4 การทําบรรจุภัณฑ์จากผักตบชวา
นายอนุชา กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้กําหนดทิศทางการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนใหม่มุ่งเป้าพัฒนา ไปสู่การเป็น “ชุมชนดีพร้อม” หรือ DIPROM Community ซึ่งจะเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งสามารถสร้างรายได้ อย่างยั่งยืน โดยต่อยอดภาคการท่องเที่ยวจากสถานการณ์ในปัจจุบัน มุ่งยกระดับไปสู่ Gen ใหม่ เน้นการปรับรูปแบบการดําเนินงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเชิงพื้นที่ และรองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้
“ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง และเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนทุกพื้นที่หลุดพ้นจากความยากจน โดยได้เดินหน้าส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้ จากการสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในพื้นถิ่น” นายอนุชา กล่าว