“ทีมเศรษฐกิจไทย” ฟิตชวนเปลี่ยนส.ส.ใหม่ เด็กผู้กองธรรมนัสลั่นโดนหยาม อาสาถอนเสาไฟฟ้า น่านเขต 1
“ผู้กองธรรมนัส” คาดเลือกตั้ง ส.ส.อย่างช้าเดือนมีนาคม 2566 เปรียบผลงานพัฒนาภาคเหนือนำโด่ง สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ฯ เข้าถึงพื้นที่ – ติดดิน พัฒนาสำเร็จไปหลายโครงการย้ำคนท่าวังผาต้องเปลี่ยนผู้แทนเข้าสภา ผลักดันงบฯ ลงพื้นที่ ด้าน “น้องดอย” ว่าที่ผู้สมัครส.ส.น่านเขต 1 อาสาถอนเสาไฟฟ้าที่คู่แข่งโวส่งลงแข่งก็ชนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ทีมงานพรรคเศรษฐกิจไทย นำโดยร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าส.ส.พะเยา เขต 1 และและนายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา เขต 3 ลงพื้นที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ติดตามโครงการต่างๆ สมัยที่ ร.อ.ธรรมนัสเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ฯรับปากชาวบ้านให้ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ อาทิ เส้นทางคมนาคมในท้องถิ่น ปัญหาที่ดินและอาชีพเกษตรกรรมซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่า โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำกิ อ.ท่าวังผา ความจุกว่า 53 ล้าน ลบ.ม. พร้อมทั้งแหล่งน้ำอื่นขนาดต่างๆ อีกหลายแห่ง โครงการสร้างสะพานปากนาย อ.นาหมื่น เพื่อพัฒนาอาชีพ – ท่องเที่ยว เชื่อมโรจิสติกส์น่านตอนใต้ – จ.อุตรดิตถ์ – ภาคอีสาน และแขวงอุดมไซ – หลวงพระบาง สปป.ลาว รวมถึงพัฒนาด่านการค้าชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ ด้านเหนือของจ.น่าน เชื่อมสปป.ลาว – เดียนเบียนฟู เวียดนาม และเชียงรุ่ง ประเทศจีน
ทั้งนี้ ในโอกาสดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัสได้กล่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.น่าน คาดการณ์อย่างช้าประมาณเดือนมีนาคม 2566 เขต 1 คือนายสักก์สีห์ พลสันติกุล เขต 3 นายฉัตรชัย จิตรตรง อดีตนายกสมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จ.น่าน ที่ปรึกษาของนายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) น่าน สำหรับเขต 2 พื้นที่เดียวกับน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น เดิมวางตัวลงส.ส.ให้นายพิชิต โมกศรี อดีตผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.น่านแต่ล่าสุดนายพิชิตได้ขอจะไปลงเลือกตั้งนายกฯ อีก เนื่องจากเขื่อกระแสข่าวลือว่า แนวโน้มอาจให้มีการเลือกตั้งซ่อมในอบจ.น่านอีกครั้งก่อน หลังเกิดเหตุร้องเรียนคัดค้านบางพื้นที่ หลังเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
“น้องดอย (ว่าที่ผู้สมัครส.ส.น่าน เขต 1 พรรคเศรษฐกิจไทย) เป็นลูกหลานคนน่าน ขันอาสาเป็นทีมงานผมเพื่อสร้างบ้านแปลงเมืองด้วยกัน ถือว่าเป็นคนที่มีใจที่จะสร้างเมืองน่านให้เจริญ ที่ผ่านมาเมืองน่านเป็นอย่างไรไม่ต้องพูดถึง แต่ในครั้งหน้านั้น การพัฒนาถือเป็นเรื่องสำคัญโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทางที่จะไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านต้องถูกทะลุเข้าไป ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงก็เช่นกัน เปรียบเสมือนเส้นเลือดถ้าตีบตัน ก็ไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
และว่า เวลานี้ชาวน่านฝากเรื่องท่องเที่ยวและการเกษตร ดังนั้นในระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีตัวแทนเข้าไปนั่งในสภา สามารถผลักดันงบประมาณลงสู่พื้นที่ เมืองเหนือที่เรียกว่าอาณาจักรล้านนา บรรพบุรุษเราได้สร้างบ้านแปลงเมืองสมัยก่อนยิ่งใหญ่ที่สุดในระแวกนี้ ยาวไปถึงสิบสองปันนาของประเทศจีน
แต่ระยะเวลาผ่านไป 8 จังหวัดภาคเหนือมีจำนวน ส.ส.กว่า 30 คน หรือมากกว่าในอนาคต การมีส่วนร่วมบริหารราชการแผ่นดินกลับไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว ตอนสมัยที่คนเหนือมีรัฐมนตรีหลายท่านนั้น ภาคเหนือคึกคักได้มีโอกาสเป็นกำลังสำคัญระดมสมอง ผ่านมาเกือบ15 ปี เพิ่งจะมีเมื่อปี 2562 – 63 แล้วเพิ่งถูกปลดออกในปี 2564 ก็คือตน
“ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมพยายามลงพื้นที่ทั้งหมดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อผลักดันงบประมาณมาแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวเหนือ ส.ส.พะเยาเป็นฝ่ายค้านมาตลอด ไม่มีผลงานพัฒนาเลยคุณภาพชีวิตชาวบ้านลำบากมาก พอเปลี่ยนแปลงการเมืองมีส.ส.เครือข่ายฝ่ายผม 2 ใน 3 คนอีกคนเป็นปาร์ตี้ลิสต์ งบประมาณในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนแทบไม่มีที่ให้สร้าง ความเจริญแหล่งน้ำ ที่ทำกิน เห็นได้อย่างชัดเจน
สำหรับจ.น่านที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ขออนุญาตไม่อยากวิจารณ์ แต่ถึงเวลาที่บ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง ผมถึงสรรหาคนที่คล้ายกัน สิ่งสำคัญต้องเป็นคนที่ติดดิน คอยช่วยเหลืออยู่กับชาวบ้าน จึงขอฝากน้องดอยไว้กับชาวท่าวังผาด้วยครับ”
ต่อมานายสักก์สีห์ หรือน้องดอยลุกขึ้นกล่าวว่า ตนเป็น “มะหินเกิดกับต้า” (หินเกิดอยู่กับท่าน้ำ) คนบ้านท่าล้อ อ.ภูเพียง จ.น่าน มาอ.ท่าวังผาหลายรอบ วันนี้ได้รับโอกาสจากร.อ.ธรรมนัสพรหมเผ่า ผู้ใหญ่หลายท่านสนับสนุนให้อาสามาร่วมทีมร่วมทัพด้วย นำผู้นำท้องที่ – ท้องถิ่นมาทั่วหน้า วันนี้พรรคเศรษฐกิจไทยพร้อมแล้ว จะเข้ามาช่วยพัฒนาเปลี่ยนเมืองน่าน เราอยู่อย่างนี้กันมาไม่รู้กี่ปีแล้ว 10 ปี 20 ปีก็ทุกข์เหมือนเดิม
“ผมอาสาและร.อ.ธรรมนัสก็พิสูจน์ใน 3 – 4 ปีมานี้ ได้งบประมาณพัฒนาจังหวัดเป็นหมื่นล้านบาท แต่จ.น่านถนนสายหนึ่ง อยากได้ไฟฟ้าเข้าพื้นที่เกษตรก็ยังต้องแย่งกันอยู่ ดังนั้นจึงมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันจะช่วยทีมผู้กองธรรมนัส และตนทุ่มเทจิตใจเต็มที่ อาสาเข้ามาช่วยในเขต1 อ.เมือง ภูเพียง ท่าวังผา เพราะถึงเวลาจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิม”
“ขณะที่บางพรรคอื่นบอกว่า เอาเสาไฟฟ้ามาลงก็ยังได้ ตนจะมาถอนเสาไฟนั้นออกไป แล้วคนชื่อสักก์สีห์จะมากอบกู้ศักดิ์ศรีของคนเมืองน่าน” นายสักก์สีห์ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.น่าน เขต1 พรรคเศรษฐกิจไทยกล่าว ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความชอบใจของผู้ร่วมในหอประชุมอ.ท่าวังผา ดังรัวกึกก้อง