*พรรคประชาชาติจัดอบรม “ภาษีที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าโครงการคนละครึ่ง” ให้ความรู้พ่อค้า แม่ค้า
และผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าใจระบบภาษีการค้า ช่วยเสียภาษีได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม*
พรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้จัดกิจกรรมการบรรยายเจาะลึกประเด็น “ภาษีที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า โครงการคนละครึ่ง” และ“การขายสินค้าออนไลน์ ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? “ จัดขึ้นที่ศูนย์การเรียนรู้ประชาชาติ Learning Center บริเวณศูนย์รวมอาหารฮาลาล มินิพลาซ่า ซอยรามคำแหง 59 กรุงเทพฯ โดยมีอาจารย์มานพ สีเหลือง และ อาจารย์กนกไรวินท์ บุรินทร์นันท์ เป็นวิทยากร ซึ่งมีพ่อค้า แม่ค้าและผู้ประกอบการร้านค้า ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับผู้ร่วมฟังบรรยายว่า เรื่องภาษี ตามรัฐธรรมนูญทุกฉบับ เขาจะบอกหน้าที่ของปวงชนชาวไทย “เสียภาษีอากรตามที่กฏหมายบัญญัติ” เงินภาษีอากรที่รัฐเก็บจากประชาชนนำไปเป็นงบประมาณบริหารราชการแผ่นดินที่ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการของรัฐทุกประเภทที่นับวันยิ่งมากขึ้น ความต้องการของประชาชนต้องการให้นำภาษีอากรกลับคืนเพื่อสาธารณประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนโดยเฉพาะมีนโยบายที่เป็นสวัสดิการกลับให้ประชาชนผู้เสียภาษีอากร ในเรื่องภาษีเรื่องเข้าใจยากมาก แต่อาจารย์วิทยากรทั้งสองท่านได้เอาความรู้ที่ยากที่สุด มาย่อยทำให้เข้าใจในระดับเบื้องต้น เพื่อจะเอาไปใช้ได้ในอาชีพ
“วันนี้เราต้องยอมรับว่า พอมีโครงการคนละครึ่ง หลักการก็คือรัฐบาลต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ คือใครที่มาใช้บริการ รัฐออกครึ่งหนึ่ง และผู้มาใช้บริการออกครึ่งหนึ่ง วันหนึ่งตนไปตลาด เจอพ่อค้าแม่ค้าหลายคนบ่นว่า ทำไมเข้าโครงการแล้วต้องมาเสียภาษี แล้วก็เสียค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีคนไปพูดในสภาเยอะมากเลยเรื่องโครงการคนละครึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับประชาชนผู้ถูกรัฐบาลเก็บภาษี จึงจัดโครงการให้ความรู้ในหัวข้อ “ภาษีที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า โครงการคนละครึ่ง” และการค้าออนไลน์ต้องเสียภาษีอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่เข้าอบรมที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้ารามคำแหงซอย 59 ขึ้น ซึ่งมีผลกระทบโดยตรง เพราะพรรคมีความคิดที่ให้จับต้องได้เป็นรูปธรรมกับประชาชนในฐานะของพรรคการเมืองเป็นของประชาชน“
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า โครงการคนละครึ่งที่ต้องเสียภาษีมี 2 ส่วนได้แก่ “ภาษีเงินได้”ที่เก็บภาษีจากบุคคลตามมาตรา 40 ที่วิทยากรได้บรรยายคือ 40(8)เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรืออื่นๆนอกจากที่ระบุไว้(1)ถึง(7ปแล้ว ภาษีส่วนนี้ได้เก็บจาก “กำไร” เมื่อหักทุนและส่วนรถตามกฏหมายแล้ว ไม่ใช่เก็บจากมีรายได้แต่เก็บจากกำไร สำหรับโครงการคนละครึ่งส่วนนี้ไม่คอยมีปัญหาเท่าใดนักเพราะส่วนใหญ่ในยุคโควิดร้านค้าจะขาดทุนมากหว่ามีกำไร
ส่วนที่ 2 ที่เห็นว่าเป็นปัญหาคือ “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” หรือ VAT ที่เป็นภาษีทางอ้อมเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ส่วนนี้มีปัญหากับร้านค้ารายย่อยมากมีได้รับผลกระทบเยอะเพราะกฏหมายกำหนดภาษีที่ผู้ขายสินค้าเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ร้านค้ารายย่อยแทบทั้งหมดไม่ได้จดไว้ เมื่อโครงการคนละครึ่งเป็นการโอนเงินทำให้กรมสรรพากรมีข้อมูลว่าร้านค้ารายย่อยที่เข้าโครงการคนละครึ่งมีรายได้เกินกว่าเดือนละ1.5 แสนบาท หรือปีละ 1.8 ล้านบาท ก็เลยทำให้ถูกเข้ามาตรวจสอบเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ซื้อที่เป็นชาวบ้านหรือในตลาดจะไม่มีใบเสร็จในการซื้อขาย จะไม่มีหลักฐานมาแสดงจึงเกิดปัญหาว่าผู้เข้าโครงการที่รัฐตรวจพบมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี จึงถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นปัญหาที่มีผลกระทบไปทั่วประเทศ ผู้ซื้อในตลาดสด ซื้อจากชาวบ้าน ก็จะไม่มีใบเสร็จไม่มีรายการภาษีตัวนี้เมื่อถูกเรียกเก็บเกิดทัศนคติที่ไม่ดีกับรัฐว่าเป็นโครงการสืบข้อมูลการค้าจากผู้ค้ารายย่อยและไม่มีเงินจ่ายค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บ หากปล่อยไว้ผู้ค้ารายย่อยต้องหันไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าหรือผู้ค้ารายใหญ่ที่มีรายการภาษีมูลค่าเพิ่มแทนไปซื้อในตลาดสด ซื้อจากชาวบ้าน จะส่งผลกระทบสร้างความเหลื่อมล้ำและสนับสนุนนายทุนมากขึ้น
รัฐบาลถูกตั้งคำถาม ว่าไม่ช่วยชาวบ้านเกษตรกรทำให้ทุกคนถ้าไปซื้อในตลาด ผู้ซื้อจะไม่มีใบเสร็จ ไม่มีหลักฐานอะไร เหมือนผลักดันให้เราไปซื้อกับห้างสรรพสินค้าใหญ่ ซึ่งวันนี้ก็เหลือเจ้าเดียวหรือน้อยเจ้าของในประเทศไทย มันก็จะทำให้กลุ่มนี้รวยขึ้นอีก คือ คนในตลาด คนที่มาค้าขายอาจจะเหมือนว่าเสียโอกาส เพราะว่าถ้ามีการไล่จับไล่ปรับมากๆ แม่ค้าพ่อค้าก็ต้องไปซื้อกับในห้างที่เขามีหลักฐาน
เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางพรรคประชาชาติทำเรื่องนี้ไม่ได้หวังอะไรตอบแทนที่เป็นเรื่องคะแนนเสียง แต่มีความจริงใจ ต้องการสร้างความรู้ที่เป็นอาวุธทางปัญญาให้ประชาชนและหวังว่าให้ประชาชนสามารถป้องกันตัวเองในด้านภาษี สามารถประกอบอาชีพหาเงินเข้ามาโดยเสียภาษีที่ถูกต้องและเป็นธรรม การเสียภาษีก็คือการเป็น “คนมือบน” ไปให้“คนมือล่าง” เป็นเรื่องที่พรรคเราเน้นอยู่ แต่พรรคต้องตรวจสอบว่ารัฐ เมื่อเราเอาภาษีไปให้รัฐบาลนำไปใช้ในทางไม่ทุจริตหรือไม่ รัฐบาลที่ดีจะต้องคืนภาษีมาเป็นเรื่องสวัสดิการของประชาชน เช่น ในเรื่องของการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ หรือในเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่เป็นสาธาณะประโยชน์ร่วมกันของประชาชน ท้ายที่สุดขอให้ทุกคนประกอบอาชีพมีความร่ำรวยเจริญยิ่งขึ้นไป