สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดประชุมประเมินผลงานประจำปี 2568 และการวางแผนงานทั้งในและต่างประเทศในปี 2569
คณะกรรมการบริหารสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดประชุมวิสามัญครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 สัญจร ณ จังหวัดเชียงราย โดยมีพระเมธีวรญาณ ประธานกรรมการบริหาร ท่านอภัย จันทนจุลกะ ที่ปรึกษาสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เป็นประธานที่ประชุม และ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 พร้อมด้วยคณะกรรมการและที่ปรึกษาอีกหลายท่าน เพื่อสรุปผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งในและต่างประเทศระหว่างปี 2567-2568
ปี 2567 จัดโครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 3 อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุจากมหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง จากอินเดียมาประดิษฐานชั่วคราวในไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา จัดเสวนาธรรม “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” และพิธีจุดเทียนธรรม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดพิธีมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ณ อบจ.กระบี่ โดยแบ่งเป็นสาขาส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา, พุทธศิลป์ และสื่อมวลชนเพื่อพระพุทธศาสนา
จัดกิจกรรมในประเทศอินเดีย ได้แก่ การเข้าร่วมประชุมวิชาการ International Dhamma Dhamma Conference ครั้งที่ 8 (23-25 สิงหาคม 2567) ณ รัฐกุชราต ลงนาม MOU ระหว่างสถาบันฯ กับการท่องเที่ยวแห่งรัฐกุชราต และร่วมมือกับ VIF ประเทศอินเดีย
จัดธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 ลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา (ปัตนะ-นาลันทา-คยา-นิวเดลี-รัฐกุชราต) ระหว่างวันที่ 2-10 ธันวาคม 2567
ส่วนการดำเนินงานปี 2568 เป็นแผนงานต่อเนื่องถึงปี 2569 ได้แก่ การประชุม SAMVAD ครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่าง 14-17 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ และ การประกาศปฏิญญากระบี่ จ.กระบี่ ในหัวข้อ “ศตวรรษแห่งเอเชียของธรรมะ-ธรรม” และการประกาศแนวคิด “อารยธรรมตะโกลา” ประวัติศาสตร์เชื่อมโยงเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งประวัติศาสตร์ การค้า ศาสนา และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมตั้งแต่โบราณ
จัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรฉลอง 75 ปี ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา Dhamma Century Cup เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 ณ กรุงพนมเปญ
จัดสัมมนาวิชาการหัวข้อ “สติ-สันติสุข-สันติภาพ” ต่อเทียนธรรมอุบลราชธานีเมืองกัมมัฏฐานโลก (12 มิถุนายน 2568) ณ ม.อุบลราชธานี จัดเสวนาหัวข้อ “การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา” (7 สิงหาคม 2568) ณ บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด
จัดกิจกรรมมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 3 วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ณ ลานศรีภุชงค์นาคราช อบจ.กระบี่ โดยมีการมอบรางวัลใน 3 สาขาหลักเช่นเดิม
กิจกรรมปลายปี 2568 ร่วมการประชุม International Dhamma Dhamma Conference ครั้งที่ 9 (18-20 กันยายน 2568) ณ ประเทศอินเดีย
การประชุม Faith for Rights ครั้งที่ 6 (15-18 ตุลาคม 2568) ร่วมกับ OHCHR ณ จ.กระบี่ และ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ (UNCC) ประเทศไทย
จัดกิจกรรม “วันสมาธิโลก” (20 ธันวาคม 2568) ณ จ.อุบลราชธานี
ส่วนแผนดำเนินงาน ปี 2569 ทางสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้วางแผนงานสำหรับโดยเน้นกิจกรรมทั้งในและต่างประเทศ
ได้แก่การจัดงาน **World Meditation Forum และเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 27-31 กรกฎาคม 2569 ณ จังหวัดอุบลราชธานี จัดพิธีมอบรางวัล โพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดกระบี่
มุ่งเน้นการประสานงานระหว่าง ประเทศจีน และ อินเดีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์และสันติภาพผ่านมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม ขับเคลื่อนแนวคิดให้ “เอเชียเป็นหนึ่งเดียว”ในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยใช้ไทย อินเดีย และประเทศลุ่มน้ำโขงเป็นฐานสำคัญ
นอกจากนี้สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ยังวางแผนดำเนินงานขยายความร่วมมือสู่ระดับโลก ร่วมกับหน่วยงานของสหประชาชาติ ที่กรุงเจนีวา ด้วยการขับเคลื่อนธรรมยาตราในยุโรปและสนับสนุนกรอบ Faith for Rights อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ธรรมะไปสู่การสร้างสันติภาพโลก
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนบนหลักการจากชมพูทวีป ที่ใช้พลังจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นการเติบโตบนความเข้าใจในปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ และเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน เป็นหลักของมนุษยชาติ และในการประชุม Faith for Rights ที่เกิดขึ้น เป็นโครงการที่ไม่เคยมีชาวพุทธเข้าร่วม จึงเป็นครั้งแรกที่ได้รับการยอมรับเป็นฉันทามติให้เข้าร่วมที่เจนีวาเป็นครั้งแรกในรอบ 2,600 ปี จึงคาดหวังว่าในปีหน้า สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จะร่วมมิกับUN สร้างสันติภาพโลก
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ในฐานะรองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า ในขณะที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว แต่ทุกมิติที่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะจิตใจต้องได้รับการพัฒนาไปด้วยเพื่อให้เกิดความสมดุล ส่วนตัวจึงสนับสนุนแนวคิดของดร.สุภชัยมาโดยตลอด ซึ่งการใช้ภาคปฏิบัติมาเป็นกลไกพัฒนาขั้นสูง นั่นคือคุณธรรมที่มีความสำคัญ จะต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นในศาสนิกชนทุกชาติทุกศาสนา ด้วยการผลักดันจิตใจมนุษย์ สร้างกุศลจิต ผ่านการศึกษา คือ ปริยัติ นำไปสู่การฝึกฝนคือ ปฏิบัติ และเข้าสู่ปฏิเวธ ที่ทำให้เกิดปัญญาในที่สุด
ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ได้กล่าวไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วว่า ”ศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษแห่งเอเชีย โดยมีพุทธศาสนาเป็นจุดเชื่อมต่อประเทศต่างๆ ในเอเชียเข้าด้วยกัน “ กิจกรรมสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่สร้างจุดเชื่อมต่อประเทศต่างๆ เข้าด้วยกันด้วยพุทธศาสนา ทั้งสิ้น ตั้งแต่การจัดโครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 1-2 เชื่อมต่อประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โครงการธรรมยาตราครั้งที่ 3-4 เชื่อมต่อภูมิภาคลุ่มน้ำโขงกับคงคา และกำลังจะเชื่อมต่อลุ่มน้ำคงคา-แม่โขง-แยงซีเกียง เพื่อให้เกิด ”ศตวรรษแห่งเอเชีย“ และเป้าหมายสุดท้าย ”ศตวรรษแห่งธรรม“ เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชีย-ยุโรป คงคา-แม่โขง-แยงซีเกียง-ดานูปเข้าด้วยกัน ผ่าน ”หลักธรรม“ ของทุกศาสนาผ่านความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ หลายองค์กรของสหประชาชาติ
การเดินทางมาจังหวัดเชียงราย ของคณะกรรมการและฝ่ายเลขานุการของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ในครั้งนี้ เป็นโอการสำคัญที่จะ check stock ทบทวนกิจกรรมต่างๆ ที่สถาบันฯ ได้ทำมา และกำลังจะทำต่อไป โดยเฉพาะเป้าหมายไปสู่ “ศตวรรษแห่งธรรม” ผ่านความร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ที่เป็น Think Tank ของรัฐบาลประเทศต่างๆ และองค์กรต่างๆ ของสหประชาชาติ เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน รวมทั้งผ่านเวทีเสวนาต่างๆ ที่เป็นสากล เช่น เวที Dhamma Darma, เวที Global Hindu-Buddhist Initiative (SAMVAD), เวทีเสวนา OHCHR and the “Faith for Rights” และ Human Rights: A Path for Solutions การทำงานของสถาบันฯ กับ UN ได้ปลูกฝัง concept ใหม่ การเปลี่ยนแปลงของปัจเจกบุคคลเพื่อสร้าง ”กุศลจิต“ จากภายในของเราเอง “Change from Within“
พระเมธีวรญาณ กล่าวว่า การนำพุทธศาสนาเข้าสู่เวทีโลก Faith for Rights เป็นการต่อยอดในสิ่งที่UN มีอยู่แล้วด้วยพุทธศาสนาที่เป็นหลักสากล ซึ่งก็คือหลักตามอริยมรรคมีองค์ 8 หรือ สัมมา คือความถูกต้อง ชอบธรรม ความเป็นธรรม และอดทน เกิดขันติบารมี ต้องมีความกล้าหาญ เสียสละในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพราะฉะนั้น Faith for Rights ก็คือ สัมมา อริยมรรคมีองค์ 8 เป็นธรรมะเพื่อมนุษยชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานคือธรรมะ แต่ต้องอาศัยการพัฒนาต่อไปเหมือนกับปัญญาที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจมาใช้กับโลกปัจจุบันได้ นำไปสู่ปัญญาที่ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ โดยอาศัยการพัฒนา
และถ้าขยายความเข้าใจให้มากขึ้นระหว่างคำว่า ธรรมะ กับ Meditation ก็จะเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากพระพุทธศาสนา ธรรมะคือหลักวิชาการที่เป็นสากล แต่Meditation เป็นการนำลงสู่ภาคของการปฏิบัติ ในหลักการใช้ชีวิตหรือการอยู่ร่วมกัน ต้องเอาใจเขาไปใส่ใจเรา จะทำให้การพูดคุยหรืออธิบายไม่เป็นไปเพื่อความขัดแย้ง หรือก่อปัญหา เพราะชี้ให้เห็นถึงสัจธรรม ความเป็นจริงของมนุษยชาติที่ต้องอยู่ร่วมกันที่มีการสมมุติบัญญัติ แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างมีความเชื่อมต่อกันหมด ส่วนการทำหน้าที่ หากใช้ธรรมะก็จะทำให้มองปัญหาได้อย่างทะลุปรุโปร่งและเข้าใจถึงความเป็นจริง แล้วจะแก้ปัญหาได้
