จีนศึกษา๑๒๘ สัมพันธ์จีน-เยอรมัน
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ค.65 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พบปะผ่านระบบวิดีโอจากกรุงปักกิ่งกับนายโอลาฟ ชอลซ์ (Olaf Scholz) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่าความสัมพันธ์จีน–เยอรมนีได้มีการพัฒนาในระดับสูงช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นในการเคารพซึ่งกันและกันและความร่วมมือแบบ win-win รวมทั้งรักษาหลักการที่สำคัญตลอดมา และความมุ่งมั่นของจีนในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับเยอรมนีอย่างใกล้ชิด โดยที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องยึดมั่นในประเด็นสำคัญของการเจรจาและความร่วมมือ ใช้กลไกการเจรจาและความร่วมมือทวิภาคีให้เกิดประโยชน์ และดำเนินการเจรจาในด้านต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เสถียรภาพทางการเงิน ความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงด้านอาหาร รวมทั้งความมั่นคงของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้ต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพของความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และสำรวจความร่วมมืออย่างแข็งขันในเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม การค้าบริการ ปัญญาประดิษฐ์ และระบบดิจิทัล โดยจีนกำลังเร่งความพยายามในการส่งเสริมกระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ ซึ่งหมายถึงโอกาสทางการตลาดที่กว้างขึ้นสำหรับเยอรมนีและประเทศอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรยืนหยัดเพื่อลัทธิพหุภาคีที่แท้จริง รักษาความเป็นธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศ ปกป้องบทบาทสำคัญของสหประชาชาติในกิจการระหว่างประเทศ ปกป้องบรรทัดฐานพื้นฐานที่ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง และทำให้การพัฒนาโลกมีความสมดุล ตลอดจนสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ทั้งนี้ จีนและสหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมและเป็นโอกาสของกันและกัน และทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่าความแตกต่าง โดยหวังว่าเยอรมนีจะมีบทบาทเชิงบวกในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน–สหภาพยุโรปอย่างมั่นคง
สำหรับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ กล่าวว่า เยอรมนีจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการฑูต รักษาการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ รับรองความสำเร็จของการปรึกษาหารือระหว่างรัฐบาลรอบต่อไป มีการเจรจาเกี่ยวกับการรักษาห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่มั่นคง การประสานงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค รวมทั้งหัวข้อสำคัญอื่น ๆ และยกระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการค้าและการลงทุน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตอบสนองต่อโควิด-19 ในการรักษาพยาบาล ตลอดจนการศึกษาและวัฒนธรรม โดยเยอรมนียินดีกับความมุ่งมั่นของจีนในการขยายการเปิดประเทศที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งจะนำโอกาสมาสู่เยอรมนีมากขึ้น เยอรมนีพร้อมที่จะส่งเสริมการสื่อสารและการประสานงานกับจีนในระดับพหุภาคี อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ยุโรป–จีนที่ดี
ท้ายที่สุด ผู้นำทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://eng.chinamil.com.cn/view/2022-05/09/content_10153649.htm )