ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายโทรหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน
กองบัญขาการตำรวจสืบสวนสอบสวน
อาซญากรรมทางเทคในโลยี(CYBER CRIME INVESTIGATION BUREAU)
@EyberCopTH สายด่วน 1441
ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายโทรหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน
เหยื่อกตรับแค่ 1 สาย เงินหายไป 2 ล้าน
วันศุกร์ที่ 9 ก.พ.67 เวลา 13:30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 บก.สอท.2 บช.สอท. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา
ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบซ.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.
สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์
ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายโทรหลอก
ติดตั้งแอปดูดเงินเหยื่อกดรับแค่ 1 สาย เงินหายไป 2 ล้าน“
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ตำรวจไซเบอร์ได้รับร้องเรียนผู้เสียหาย ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์
thaipoliceonline.go.thว่าได้มีมิจฉาชีพโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท AIS แจ้งว่า
มีบัญชีหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้เสียหายเป็นคนจดทะเบียนได้ถูกระงับการใช้งาน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพ
จึงได้ให้ผู้เสียหายติดต่อผ่านแอปไลน์กับบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่
โดยผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานฟอกเงิน
ให้แจ้งความทางไลน์ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ จากนั้นมิจฉาพด้ส่งสิงก์ให้เข้าไปกดดาวน์โหลดแ
เพื่อทำการแจ้งความ เมื่อติดตั้งเสร็จ ปรากฏว่า มีข้อความแจ้งว่าเงินในบัญชีของผู้เสียหายถูกโอนออกไป
ครั้ ง ครั้งที่ 1 จำนวน 963,908.04 บาท และ ครั้งที่ 2 อีกจำนวน 1,036,088 รวมเป็นเงินทั้
1,999,996.04 บาท จึงได้เข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ในเวลาต่อมา
ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัยผบก.สอท.3
สืบสวนกรณีดังกล่าว โดยสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้ร่วมกระทำผิดได้ จำนวน 7 ราย
โดยสามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย รอแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิง 2 ราย และยังมี
เยาวชนอีก 1 รายที่อยู่ระหว่างออกหมายจับ
โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกับพวก ลักทรัพย์ผู้อื่นโดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันนำเข้าสู่นำเข้าสู่ระบบ
คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน
เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันฟอกเงิน“
ขอบคุณที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
สมศักดิ์ หิรัญรุ่งนักข่าวภาคสนามรายงาน