ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ปคบ. ร่วม อย. บุกทลายโกดังกระจายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, ยา และเครื่องสำอางปลอม
มูลค่าสินค้าปลอมกว่า 10 ล้านบาท
วันที่ 24 มีนาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดยพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดชผบช.ก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐรอง ผบก.ปคบ. ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. นพ.ไพศาล ดั่นคุ้มเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีทลายโกดังเก็บผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาปลอม และเครื่องสำอางปลอม โดยลวงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ตรวจยึดของกลาง 19 รายการ รวม 6,320 กล่อง มูลค่าสินค้าปลอมกว่า 10,000,000 บาท
สืบเนื่องจากปัจจุบันค่านิยมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพเป็นที่ได้รับความสนใจของผู้บริโภคยุคใหม่จึงทำให้ปัญหาการแพร่ระบาดของผลิตภัณฑ์สุขภาพปลอมในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีมาตรการในการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับการร้องเรียน และข้อมูลจากบริษัทอินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) ว่าพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ TS6 Probiotic และ Probac7 ปลอมแพร่ระบาดในแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ TS6 Probiotic และ Probac7 ปลอมบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มากกว่า 15 ร้านและพบว่ากลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดมีการลักลอบนำสินค้าปลอมเข้ามาจากประเทศจีน จากนั้นนำมาเก็บไว้ที่โกดังเก็บสินค้าในพื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อีกทั้งพบว่าร้านค้าดังกล่าวมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารยา และเครื่องสำอาง ชื่อดังที่ต้องสงสัยว่าปลอมหลายอีกหลายยี่ห้อ ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละรายการมีราคาค่อนข้างสูง ผู้บริโภคที่ซื้อย่อมคาดหวังในคุณภาพการขายผลิตภัณฑ์ปลอมในราคาสูงจึงเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคเมื่อรับประทานแล้วอาจทำให้ไม่ได้ผลตามต้องการและอาจทำให้ได้รับอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้บริโภคโดยตรง ต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้เข้าทำการตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งย่านถนนบรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้นพบนายเชง(สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่และกิจการดังกล่าวตรวจยึดผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ ตามที่ปรากฏในเรื่อง 2 ร้องเรียน และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 19 รายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10,500,000 บาท โดยของกลางส่วนใหญ่ที่ยึดในครั้งนี้ และมีบริษัทผู้นำเข้ายืนยันว่าไม่ใช่สินค้าของบริษัทตนได้แก่ 1.บริษัทอินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) 2.บริษัทแอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด3. บริษัทเฮอร์บาไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โดยในการตรวจค้นครั้งนี้พบผลิตภัณฑ์“Pre-conception&Pregnancy” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสตรีมีครรภ์โดยเป็นวิตามินและแร่ธาตุที่ใช้ในการบำรุงระหว่างตั้งครรภ์จนถึงคลอดบุตรหากทำปลอมและมีสารเคมีอันตรายผสมเจือปนอาจเป็นอันตรายโดยตรงต่อผู้บริโภคเบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาในความผิดตามพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ฐาน “จำหน่ายอาหารปลอม”โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาแต่รับว่า สินค้าของกลางในคดีทั้งหมดถูกส่งมาจากประเทศจีนแล้วนำมาเก็บไว้ในอาคารที่เกิดเหตุจริง เพื่อนำส่งลูกค้า คนไทยที่ซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในประเทศไทยอีกทอดหนึ่งในส่วนผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าปลอมอื่นๆอยู่ระหว่างติดต่อให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ตรวจสอบและ ยืนยันเพิ่มเติมในส่วนตัวอย่างผลิตภัณฑ์พนักงานสอบสวนจะส่งผลิตภัณฑ์ตรวจพิสูจน์กับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข หากพบสารต้องห้ามจะเป็นความผิดเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ. อาหารฐาน “จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์” ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับการกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม1. พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ฐาน “จำหน่ายอาหารปลอม” ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาท ถึงหนึ่งแสนบาท 2.กรณีพบว่าผลิตภัณฑ์ยาเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขาย ยาปลอม” ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 20 ปีและปรับตั้งแต่สองพันถึงหนึ่งหมื่นบาท 3.กรณีพบว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอมจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐาน“ขายเครื่องสำอางปลอม” ระวางโทษจำคุกหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ อย.ขอขอบคุณตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวนขยายผลจนสามารถตรวจยึดอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ในส่วนของพี่น้องประชาชนขอย้ำเตือนว่า อาหาร ยาเครื่องสำอางจะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ก่อนจำหน่ายโดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์หรือที่บรรจุภัณฑ์ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอนกรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว สำหรับยาไม่สามารถซื้อทางออนไลน์ ได้ต้องซื้อจากร้านยาหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้นทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจากอย.ได้ที่ www.fda.moph.go.th 3 และLine@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาตสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนอย.1556หรือผ่านEmail: [email protected] Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบอย่าหลงซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านสื่ออนไลน์เพียงเพราะเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาด ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น อาหารเสริม และยา ที่ถูกเกินกว่าปกติหรือโฆษณาโปรโมชั่นการตลาดที่ราคาลดลงจนไม่น่าเป็นไปได้ เช่น ลด 50 -70 % ซื้อ 1 แถม 2,สินค้าPre Order, กล่าวอ้างซื้อตัดล็อต หรือเป็นของแท้นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่เสียภาษีจึงราคาถูก เป็นต้น ให้ระลึกไว้ เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาและได้ของปลอมของไม่มีคุณภาพใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ และขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์ม อี–มาร์เก็ตเพลส และทางสื่อออนไลน์ทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาดหากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุดทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา