กระทรวงการต่างประเทศนำคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมโครงการการทูตเชิงรุกเพื่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จ. นราธิวาส
เมืองโกตาบารู มาเลเซีย ระหว่างวันที่ ๒๘ – ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เมื่อวันที่ ๒๘ – ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงการต่างประเทศ นำโดยนายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุล นายธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และนายพงศ์ปราชญ์ มากแจ้งรองอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงฯและสื่อมวลชนรวม ๓๘ คน เข้าร่วมโครงการการทูตเชิงรุกเพื่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จ. นราธิวาส – เมืองโกตาบารู มาเลเซีย
คณะได้ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนแบบคงที่ตามแม่น้ำโก–ลก ซึ่งไทยกับมาเลเซียได้ร่วมกันสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างกันมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งจากการใช้พื้นที่ชายแดน และสนับสนุนการรักษาความมั่นคง ส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนระหว่างกัน รวมถึงยังได้ร่วมการสัมมนาหัวข้อ “แนวปฏิบัติด้านเขตแดนและการบริหารจัดการบริเวณพื้นที่ชายแดนแม่น้ำโก–ลก” โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการทั้งฝ่ายปกครองและความมั่นคงในพื้นที่เกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านเขตแดนและการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนแม่น้ำโก–ลก รวมถึงสำรวจภูมิประเทศบริเวณพื้นที่การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก–ลก แห่งที่ ๒ ด้วย
คณะยังได้ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปและสังเกตการณ์การดำเนินโครงการการตรวจDNA เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ที่สถานกงสุลใหญ่ ณเมืองโกตาบารู ซึ่งดำเนินการโดยสถานกงสุลใหญ่ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงยุติธรรม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยโครงกล่าวดังกล่าวได้เริ่มดำเนินมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ เพื่อช่วยให้คนไทยที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนในรัฐกลันตัน ได้มีสถานะทางทะเบียนราษฎร และสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานและบริการของภาครัฐได้ โดยในปีนี้ มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตรวจ DNA จำนวน ๒๓๕ คน นอกจากนี้ คณะยังได้เดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนวัดพิกุลทองวราราม รัฐกลันตัน เพื่อพบปะชุมชนชาวมาเลเซียเชื้อสายสยามโดยโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรภาษาไทย ศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อให้เด็ก ๆ ชาวมาเลเซียเชื้อสายสยามในรัฐกลันตันได้เข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมร่วมของไทยและมาเลเซียและความใกล้ชิดของประชาชนทั้งสองฝั่ง
โอกาสเดียวกัน คณะยังได้การเข้าร่วมกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ “Let’s Go Green! ภารกิจรักษ์โลกของสหายตัวน้อย” ที่โรงเรียนบ้านสุไหงโก–ลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบัวแก้วสัญจรครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ โดยกรมสารนิเทศ ร่วมกับทีมงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย โดยองค์การยูนิเซฟ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชนในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายรูปแบบใหม่ในปัจจุบัน รวมถึงเยี่ยมชมสวนวาเลนไทน์พันธุ์ไม้ และร้านซาโลมาปาเต๊ะ เพื่อสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การดำเนินการของวิสาหกิจขนาดย่อมในจังหวัดนราธิวาสด้วย
The Ministry of Foreign Affairs took members of the media to Narathiwat and Kota Bharu, Malaysia, as part of the project to promote the Ministry’s proactive diplomacy missions in Thailand’s Southern Border Provinces
On 28 – 30 May 2024, the Ministry of Foreign Affairs, led by Mr. Nathapol Khantahiran, Deputy Permanent Secretary for Foreign Affairs, together with Mr. Worawoot Pongprapapant, Director-General of the Department of Consular Affairs, Mr. Thanawat Sirikul, Deputy Director-General of the Department of Information, and Mr. Pongprach Makchang, Deputy Director-General of the Department of South Asian, Middle East, and African Affairs, took the Ministry’s officials and members of the Thai media to Narathiwat province and Kota Bharu, Malaysia, as part of the project to promote the Ministry’s proactive public diplomacy mission in Thailand’s Southern Border Provinces.
The Delegation, comprising of 38 members, participated in a briefing on the fixed and permanent boundary demarcation along the Golok River which Thailand and Malaysia have together implemented the boundary survey and demarcation since 1973 to reduce border-related conflicts, enhance security, and promote border trades. The group also attended the opening of the seminar on “Boundary Practice and Border Management in the Golok River area and Community Engagement Activities” organized by the Department of Treaties and Legal Affairs, MFA, to enhance understanding of boundary practices and border management in the Golok River area to local government officers, together with surveying on the 2nd Rantau Panjang – Sungai Golok Bridge construction area.
In Kota Bharu, the delegation received a briefing at the Royal Thai Consulate-General about the DNA Testing Programme for Thai nationals residing in Malaysia who are not yet legally recognized. The programme, launched in 2017 and conducted by the Thai Consulate-General and other relevant agencies, aims to help Thai nationals born and resided in Malaysia to register themselves with the Thai civil registration system, so that they could get access to the Thai public services. This year, the Consulate-General provided services to 235 people for the testing, the highest number since the start of the programme. The delegation also visited Phikulthong Vararam Temple to meet the community of Siamese Malaysian, where Thai language, Buddhism and Thai culture are taught to the community’s children.
Furthermore, the group also attend “Let’s Go Green!” workshop at Ban Sungai Golok School, which is part of the 1st MFA on Tour of 2024 organized by the Department of Information, in collaboration with UNICEF Thailand, United Nations in Thailand. The workshop aimed to promote understanding among young people on new global challenges, and also visited Valentine Panmai cactus orchard and Saloma Patek to help support and promote the local small enterprises.