รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ปทุมธานี
วันนี้ (28 ต.ค.64) เวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุมเจ้าพระยา ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อกำกับและติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติราชการในภูมิภาคพร้อมทั้งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดปทุมธานีจำนวน 1,000 ถุง โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีนายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นางสาวธนิยา นัยพินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี ว่าที่ ร.ต.ขรรค์ไชย ทันธิมา ท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี นายอภิวัฒน์ เลาหวัฒน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี นายจักรพันธ์ กิ่งแก้วพลังงานจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมให้การต้อนรับ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งทุกหน่วยงานเข้าพื้นที่ประสบภัยให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวเบื้องต้นโดยการมอบถุงยังชีพ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การสาธารณสุขเข้าไปให้ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยติดเตียง ตลอดจนผู้สูงอายุ รวมถึงหน่วยงานของการไฟฟ้าให้เข้าไปติดตามเรื่องความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าต่อบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงที่อาจจะเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช๊อตไฟฟ้าลัดวงจรต่างๆ รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายทั้งบ้านเรือน พื้นที่ประกอบอาชีพ รวมถึงความเสียหายอื่นๆ เพื่อเตรียมแผนฟื้นฟูให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์น้ำของจังหวัดปทุมธานี พร้อมกล่าวว่าจะได้นำถุงยังชีพ จาก ปตท. กระทรวงพลังงาน ที่ได้รับครั้งนี้ แจกจ่ายไปยังประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น อย่างไรก็ตามในระยะนี้จังหวัดปทุมธานี ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาอีกระลอกตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาสิ้นเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้