เกษตรกรขอนแก่น เป็นปลื้ม ข้าวหอมมะลิใหม่นาปรัง ราคา กก.ละ 8.20 บาท ทำให้หลายพื้นที่ เร่งทำการเก็บเกี่ยวเพื่อทำนาปีต่อเนื่องทันที
ขณะที่รถเกี่ยวข้าว ยังคงคิดราคาเดิมไร่ละ 500 บาท แม้ราคาน้ำมันจะแพงขึ้นแต่ก็เป็นราคาสัญญาใจที่นาปีต้องกลับมาเกี่ยวให้อีกเพื่อจำกัดต้นทุน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกษตรกรในเขตชลประทาน ที่ ต.พระลับ และ ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยังคงเร่งทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังฤดูกาลผลิต 64/65 ที่ขณะนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วภายหลังจากที่ไม่สามารรถทำนาปรังมาได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้บริการรถเกี่ยวข้าวและรถขนข้าวมากกว่าการใช้แรงงานคนหรือการลงแขกเกี่ยวข้าว ขณะที่พื้นที่นาใดที่ทำการเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่การไถกลบปละเตรียมดิน เพื่อเข้าสู่การทำนาปรังฤดูกาลผลิต 2565/66 ทันที ทำให้ขณะนี้พื้นที่นาในเขตชลประทาน จึงเนืองแน่นไปด้วยรถเกี่ยวข้าว รถบรรทุกข้าวและเกษตรกร ที่มาทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี และเตรียมทำนาปี กันอย่างคึกคัก โดยพบว่าราคาจำหน่ายข้าวใหม่นาปรังปีนี้ยังอยู่ที่ราคา กก.ละ 8.20 บาท
นายสุขสันต์ โยคุณ อายุ 52 ปี เกษตรกรในเขต ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ฤดูการผลิตนาปรัง 2564/65 นั้นได้ทำการปลูกข้าว ในพื้นที่ที่ครอบครัวมีอยู่คือ 30 ไร่ โดยทำนาเต็มพื้นที่ตามการจัดสรรน้ำในเขตชลประทาน โดยทำการปลูกข้าวหอมมะลิ ตามกลไกและความต้องการของตลาด แต่การทำนาปรังปีนี้ ยอมรับว่าต้นทุนแพงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะค่าปุ๋ย ที่ซื้อมาในราคากระสอบละ 1,700 บาท ทำให้การใส่ปุ๋ยปีนี้ต้องน้อยลงเพื่อลดต้นทุน จึงจะเห็นได้ว่าผลผลิตข้าวนาปรังของเกษตรกรในปีนี้นั้น จะไม่เต็มฝักหรือที่เรียกว่าไม่อิ่ม ซึ่งก็จะส่งผลต่อผลผลิตและปริมาณข้าวที่จะส่งไปจำหน่ายให้กับโรงสี ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ในช่วงแรก กก.ละ 5 บาท แต่ปัจจุบัน กก.ละ 8.20 ซึ่งถือเป็นราคาที่เกษตรกรรับได้ดังนั้นผลผลิตข้าวนาปรังที่ครอบครัว ประมาณการไว้ว่า 1 ไร่ 1 ตัน นั้น ปีนี้ อาจจะลดเหลือ 1 ไร่ประมาณ 700-800 กก. เนื่องจากข้าวไม่เต็มอิ่ม
“ นอกจากต้นทุนค่าปุ๋ย ค่าน้ำมันที่แพงขึ้นแล้ว ค่าขนส่งก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุน อย่างเช่นการเกี่ยวข้าวนาปรังวันนี้ 30 ไร่ รถเกี่ยวข้าวคิดไร่ละ 500 บาท ซึ่งเกี่ยวเสร็จก็ต้องจ่ายเงินสดทันที ซึ่งหากใช้แรงงานแบบเดิมการเกี่ยวคงเป็นเดือน แต่การใช้รถเกี่ยวก็จะเสร็จภายใน 1 วัน ซึ่งรถเกี่ยวข้าวที่เรียกใช้บริการนั้นจะเป็นขาประจำที่คุยกันชัดเจน และตกลงราคากันที่ไรล่ะ 500 บาท และต้องมาเกี่ยวข้าวนาปีให้ด้วย ขณะที่รถเกี่ยวข้าวบางรายอาจจะคิดราคาถูกกว่า หรือแพงกว่า แต่เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ก็ไม่มาเกี่ยวข้าวให้ ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้บริการรถเกี่ยวข้าวขาประจำจะชัวร์กว่า”
นายสุขสันต์ กล่าวต่ออีก เมื่อรถเกี่ยวข้าวเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วก็จะส่งต่อให้กับรถบรรทุก ซึ่งช่วงนี้นำมันแพง ค่าขนส่ง อย่างจากที่นา ริม ถ.เลี่ยงเมือง ไปยังโรงสี ในเขต ต.พระลับ ก็จะคิดราคาค่าขนส่ง ในราคาเริ่มต้น รอบละ 300 บาท หากไปส่งโรงสีที่ไกลหน่อยก็จะคิดราคาเริ่มต้นที่ 350 บาท อย่างไรก็ตามเมื่อการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้วเสร็จก็จะทำการไถกลบและพักดินไว้1 สัปดาห์ จากนั้นก็จะเข้าสู่การทำข้าวนาปีภายในเดือน มิ.ย.นี้ทันที