*ด่านกักกันสัตว์มุกดาหารเตรียมทำลายเนื้อหมูรัสเซียลักลอบนำเข้า 24 ตัน*
เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายฉลองรัฐ จันทร์ส่งแก้ว หัวหน้าด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร และ ร.อ.ธนพงษ์ โพธิ์ปาน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 แถลงข่าว จับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งจำนวนประมาณ 24 ตัน (24,000 กิโลกรัม) มูลค่าจำหน่ายในประเทศไทยประมาณ 6 ล้านบาท ขณะใช้รถเทรลเลอร์หัวลากบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ลำเลียงผ่านด่านศุลกากรมุกดาหารเข้ามาในเมืองมุกดาหาร
สืบเนื่องจากด่านกักกันสัตว์มุกดาหารได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบนำเข้าซากสุกร(หมู) จากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ผ่านเข้ามาทางด่านพรมแดนมุกดาหาร โดยใช้เส้นทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 (มุกดาหาร–สะหวันนะเขต) ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงจังหวัดมุกดาหาร ร่วมนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวังที่บริเวณสามแยกปากทางออกจากด่านพรมแดนมุกดาหาร ถนนชยางกูร กระทั่งพบรถเทรลเลอร์หัวลากบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-2126 มุกดาหาร ติดสติ๊กเกอร์ที่หน้ากระจกรถว่า หจก.นานาญาญ่า ทรานสปอร์ต วิ่งออกมาจากด่านพรมแดนมุกดาหาร ตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงได้เรียกให้หยุดและขอตรวจสอบภายในตู้คอนเทนเนอร์ พบกล่องกระดาษบรรจุสิ่งของวางไว้อยู่เต็มตู้เมื่อเปิดออกดูเป็นเนื้อสุกรแช่แข็ง น้ำหนักประมาณ24 ตัน (24,000 กิโลกรัม) มูลค่าจำหน่ายในประเทศไทยประมาณ 6 ล้านบาท
ตรวจสอบนายศรีสุวรรณ กลางประพันธ์ คนขับรถเทรลเลอร์ปรากฏว่าไม่มีเอกสารใบอนุญาตนำเข้า และหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของหรือที่มาของแหล่งกำเนิดที่แน่ชัดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงเป็นกรณีต้องสงสัยว่าซากสุกรดังกล่าวมาจากสัตว์ที่เป็นโรคระบาด หรือพาหะของโรคระบาด ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์ จึงได้ทำการอายัดซากสุกรทั้งหมด ยึดรถเทรลเลอร์หัวลากบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ และควบคุมตัวนายศรีสุวรรณ ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหารเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายข้องต่อไป
นายฉลองรัฐ กล่าวว่า จากการสอบถามนายศรีสุวรรณ พนักงานรถเทรลเลอร์หัวลากบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ขับรถเทรลเลอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิดผ่านด่านพรมแดนมุกดาหาร เข้ามาในตัวเมืองมุกดาหารจริง แต่ไม่ทราบว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกซากสุกรอยู่ เนื่องจากตอนขาไปขับรถอีกคันไปส่งสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวที่แขวงวสะหวันนะเขต แล้วได้สลับรถที่มาทราบภายหลังว่ามีซากสุกรอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ตามคำสั่งของชิปปิ้งในแขวงสะหวันนะเขตซึ่งแจ้งว่าเมื่อผ่านด่านตรวจที่พรมแดนมุกดาหารออกมาแล้วจะมีคนติดต่อมาบอกว่าให้ขับรถไปที่ไหนต่ออีกครั้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจดังกล่าว
ทั้งนี้ การลักลอบนำซากสุกรผ่านด่านพรมแดนมุกดาหารเข้ามาในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 31 ลักลอบการนำเข้าซากสัตว์ผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ซึ่งมีระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ สำหรับซากสุกรที่ตรวจพบทั้งหมดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดไว้และนำส่งตรวจหาเชื้อโรคตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาด และเตรียมที่จะนำซากสุกรทั้งหมดที่ตรวจอายัดไว้ไปฝังทำลายด้วยการขุดหลุมฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่อไป
อนึ่ง จากการตรวจสอบกล่องกระดาษและถุงพลาสติกที่ให้หุ้มห่อซากสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาและถูกตรวจอายัดไว้ดังกล่าว มีข้อความเป็นภาษารัสเซียที่ระบุว่ามีแหล่งผลิตเป็นบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แช่แข็งอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซีย มีบริษัทในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นผู้นำเข้ามาขาย และต่อมาได้ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย ดังกล่าว
