*พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รับฟังปัญหาผลกระทบ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ 2562 ที่สร้างปัญหา เขตบูโด สุไหงปาดี พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้*
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4 นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ และคณะ เดินทางพบปะพี่น้องประชาชนชาวนราธิวาส และ ชาวยะลา เพื่อรับฟังปัญหาผู้ได้รับผลกระทบ จาก พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติพ.ศ.2562 (เขาบูโด สุไหงปาดี) ที่ เครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเทือกเขาบูโด ที่บ้านมาแฮ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า มีพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบปัญหาที่ดินและป่าไม้ที่ทำกิน ที่เกิดจาก พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้มีการ แก้ไข พ.ร.บ.เดิมทั้งหมดยกเลิก ปรากฏว่ามีผลกระทบอย่างรุนแรง กับพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวงกว้าง เขาบูโด สุไหงปาดี ทรายขาว รวมถึงพื้นที่อื่น เพราะว่า ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีบทบัญญัติหลายมาตรา ที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มีการใช้ พ.ร.บ.เดิมขึ้นมาไปทับที่ของประชาชน ที่อาศัยอยู่ประมาณ 2 แสน 6 หมื่นไร่เป็นวงกว้าง พอไปทับที่แล้วในขณะนั้นกฎหมายฉบับเดิมก็บังคับใช้ไม่ได้ จึงมีมติ ครม. อยู่หลายฉบับ และมีมติ ครม. 2541 มติ ครม. 2551 ให้พิสูจน์ ว่าประชาชนที่อยู่ในที่นี้ก่อนประกาศ พ.ร.บ.อุทยาน หรืออยู่หลัง
ประกาศพ.ร.บ.อุทยาน แล้วพบว่ามีการพิสูจน์ โดยหน่วยราชการและประชาชน การพิสูจน์นี้ก็ไม่ได้พิสูจน์แต่เฉพาะความเป็นจริงของความเป็นอยู่เท่านั้น ยังพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ด้วย มีการใช้จีพีเอสด้วย จนกระทั่งทางราชการ ได้รับทราบว่า ประกาศอุทยานเดิมทับที่ประชาชนแล้วได้มอบเอกสารให้ประชาชน ว่า ราชการมาประกาศทับ ต่อมาปี 2562 มี พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับนี้มาใช้บังคับว่าคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ เป็นผู้ทำผิดกฎหมายทั้งหมด ทั้งที่เดิมพื้นที่ประมาณ 4.7 ล้านไร่ เป็นที่ให้มีการพิสูจน์ แต่อยู่ๆ กฎหมายในขณะนั้น ได้ประกาศว่า เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ เป็นผู้บุกรุก ทั้งหมด ในขณะที่กฎหมายก็ออกและมีประชาชนได้ลงชื่อ หมื่นกว่าชื่อ เพื่อขอมีกฎหมายของตัวเอง ที่ต่างไปจากกฎหมายฉบับนั้น แต่ปรากฏว่ากฎหมายในสมัย สนช.ก็ไม่ได้เอากฎหมายของประชาชนมา
“ที่สำคัญมีกฎหมายที่ออกมาประชาชนในเขตอุทยานที่พิสูจน์สิทธิเป็นผู้บุกรุกทั้งหมดทั้งที่ในพื้นที่บูโด สุไหงปาดี พิสูจน์แล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ รัฐประกาศเขตอุทยานทับที่ประชาชนแต่มีอยู่มาตราหนึ่ง เพื่อเป็นการผ่อนคลายว่า ถ้าใครสามารถพิสูจน์ว่าอยู่มาก่อน หรือเป็นพื้นที่ทำมาหากินมาก่อน ให้มาแสดงตัวหรือมาแจ้ง ภายใน 240 วัน ซึ่งครบไปแล้ว อันนั้นคือที่ดิน4.7 ล้านไร่ ที่รัฐจะไปพิสูจน์ว่า ประชาชนบุกรุก หรือรัฐบุกรุกประชาชน สรุปว่าประชาชนเป็นผู้กระทำผิดแต่ผ่อนคลายให้มาแสดงตัวจะให้อยู่ในเวลา 20 ปี ในเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่เป็นสิทธิของประชาชนรัฐเป็นผู้บุกรุก เห็นว่ากฎหมายมีผลกระทบเป็นวงกว้าง พร้อมให้อำนาจ เจ้าหน้าที่ไปออกกฎหมายลูก อีก
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า เราขอเพียงว่า พื้นที่ ที่ประชาชนอยู่ก่อน ประกาศอุทยานฉบับเก่า และประกาศกฎหมายทุกชนิด อยู่ก่อนกฎหมายที่ดิน ก็ขอให้ประชาชนมีสิทธิเป็นเจ้าของ ตามสิทธิโดยทั่วไป ไม่ได้มาเรียกร้องอะไร ซึ่งในจำนวนนี้ จากข้อมูลของภาคประชาชนได้ทำมีประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ของ 2 แสน 6 หมื่นไร่ ประชาชนอยู่มาก่อน พ.ร.บ.อุทยานพ.ร.บ.ป่าสงวน และกฎหมายที่ดิน
“วันนี้พอได้รับฟังก็ได้รู้ว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา ไม่ใช่แค่ปัญหาสามจังหวัดแต่เป็นปัญหาที่ดิน ของคนทั้งประเทศ ถ้าประเทศไทยยัง ไม่มีความเป็นธรรมเรื่องที่ดิน ความขัดแย้งก็จะมีทุกแห่งเพราะที่ดินเป็นที่อยู่ของคน“พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าว