ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว
เบื้องเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ขับขี่เรือตามมาตรา 300 และ 390 ในข้อหากระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 60,000 บาท
วันนี้ (19 พฤษภาคม 2566) ณ ห้องประชุมมุขหน้าชั้น 4 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ,นางรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต,นายอุดมพร กาญจน์หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต นายอดูลย์ ระลึกมูลเจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต,นาวาเอก กฤษณ์เคลือบมาศ รอง ผอ.ศรชล จังหวัดภูเก็ต,นภดล อาวุธกรรมปรีชา นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 และ นางสาวธีราภรณ์ นกแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงความคืบหน้า กรณีเรือสปีดโบ๊ทเกิดอุบัติเหตุชนตอหม้อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร ซึ่งใกล้กับท่าเที่ยบเรืออ่าวฉลอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย( โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566) จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ประสบภัย จำนวน 37 รายเป็นคนไทย 4 ราย,รัสเซีย21 ราย คาซัคสถาน 9 รายฮ่องกง 1 รายจีน 1 ราย ,ยูเครน 1ราย โดยเป็นผู้ป่วยแบ่งเป็นระดับสีขาว 2 ราย (คาซัคสถาน1 ราย ไทย 1 ราย) สีเขียว 13 ราย ,สีเหลือง16 รายและสีแดง 6 ราย( เป็นคนไทย 2 ราย และรัสเซีย )
โดยขณะนี้มีผู้ประสบภัยรักษาตัวในโรงพยาบาล 16 ราย โดยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 11 ราย โรงพยาบาลดีบุก 1 ราย,โรงพยาบาลกรุงเทพ 1 รายโรงพยาบาลมิชชั่น 3 ราย ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการสอบปากคำพยานแล้ว 19 ราย พบพยานทุกคนให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้ขับขี่เรือมีพฤติกรรมขับขี่เรือด้วยความประมาท และอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามาตรา 300 และ 390 ในข้อหากระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 60,000 บาทเป็นอำนาจของศาลแขวงภูเก็ต