เริ่มงานสมโภชและแห่พระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดไทยกุสินารา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่วัดไทยกุสินารา จัดงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุโดยมี
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร)กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา
เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ Ph.D) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา อินเดีย
และพระวิเทศวชิรญาณ วิ. (สมพงศ์ ญาณธีโร ดร.) เจ้าอาวาสวัดป่าบรมธาตุราชสักการ– อินเดีย รักษาการเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ – อินเดีย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ร่วมพิธี
นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเดินทางมาร่วมในพิธีบวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย กันอย่างพร้อมเพรียง โดยคุณณรงค์ฤทธิ์ เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานมูลนิธิสัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 จากนั้นเป็นการแสดงนาฏศิลป์ เจ้าภาพเครื่องบวงสรวงจุดธูปเทียนเครื่องสักการะ จุดเทียนบวงสรวงมหามงคล 16 เล่ม และอ่านโองการบวงสรวง ปักธูป โปรยข้าวตอกดอกไม้
ก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีพิธีเคลื่อนขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ ในงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ประจำปี 2566 ไปยังสถูปมหาปรินิพพาน ณ สาลวโนยานสถานที่ปรินิพพานพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สำหรับงานพิธีสำคัญนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี แต่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้จัดพิธีที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ประเทศไทยจึงเป็นการจัดพิธีที่วัดกุสินาราเฉลิมราชย์ อินเดีย อีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ กล่าวถึงที่มาของการจัดงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุว่า วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ สร้างขึ้นเมื่อปี2537 เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโอกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งในวัดจะมีปูชนียสถานสำคัญ คือ พระมหาเจดีย์มหาธาตุราชศรัทธาที่พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์จำนวนหนึ่ง
“เมื่อสร้างเสร็จพระองค์ท่านได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมเส้นพระเกศาของพระองค์มาประดิษฐานในพระมหาเจดีย์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์มาทรงประกอบพิธีดังกล่าว ดังนั้น ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดมิได้ ทางวัดจึงเห็นสมควรจัดงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวพุทธได้มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิด และเพื่อให้เกิดประเพณีอันดีงามตลอดจนเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้สถาพรผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประธานคณะกรรมการจัดงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ กล่าวว่า พิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกหลังพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าที่มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา (ปัจจุบันกุสินารามีสถานะเป็นจังหวัดหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย เรียก กุศินาคาร์) โดยพวกเจ้ามัลละ กษัตริย์แห่งแคว้นวัชชี ได้จัดพิธีสมโภชขึ้น อย่างสมพระเกียรติ ตลอด 7 วัน 7 คืน มีการแห่พระบรมสารีริกธาตุรอบเมืองกุสินารา ก่อนจะมอบหมายให้โทณพราหมณ์แบ่งให้กับเมืองต่างๆ8 เมืองนำไปบูชา ในส่วนของเจ้ามัลละเองก็จัดสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี
พระวิเทศวชิรญาณ วิ. (สมพงศ์ ญาณธีโร ดร.)”งานสมโภชพระธาตุ วัดไทยกุสินาราฯ ก็จัด 7 วัน แต่กิจกรรมหลักจะมีในช่วง 2-3 วันสุดท้าย เป็นพิธีแห่พระธาตุ ซึ่งเราพยายามจัดตามราชประเพณีในครั้งพุทธกาลอย่างสมพระเกียรติและเป็นไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขบวนอัญเชิญพระพุทธปรินิพพาน และขบวนอัญเชิญ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 จากวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ไปยังสาลวโนทยานและมกุฏพันธนเจดีย์นั้นยิ่งใหญ่อลังการถ้าใครได้เห็นหรือได้ร่วมในพิธีเชื่อว่าจะเกิดปีติอย่างแรงกล้า”