ตวงพร อัศววิไล พาเที่ยว จ.มุกดาหาร-นครพนม
หลังเสร็จสิ้นการมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 จำนวน 11 รางวัล ที่มอบให้แก่บุคคล คณะบุคคล และองค์กร เป็นรางวัลที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา และเป็นผู้มีศรัทธาในบารมีธรรมขององค์พญานาค
วันนี้ (6 ก.พ.) คณะของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เดินทางไปยังวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อสักการะพระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติพระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหาร มีความหมายว่า พระพุทธรูปอันเป็นมิ่งมงคลของเมืองมุกดาหาร ขนาดหน้าตัก 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 เมตร โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลและเงินบริจาคพุทธศาสนิกชนกว่า 100 ล้านบาท
ระหว่างการสักการะพระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร พระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราช จังหวัดนครราชสีมานำคณะของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 สวดเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้หายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
จากนั้นคณะของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 สักการะองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช เป็นรูปปั้นองค์พญานาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาว122 เมตร สูง 20 เมตร รูปปั้นองค์ลำตัวสีฟ้าอมเขียว สลักลวดลายอย่างวิจิตรงดงามหันพระเศียรลงไปยังแม่น้ำโขงเบื้องล่าง เป็น 1 ใน 3 องค์พญานาค (พญานาค 3 พิภพ) ที่มีความสำคัญของจังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ พญาศรีภุชงค์นาคราช ที่แก่งกะเบา , พญาอนันตนาคราช ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 และพญาศรีมุกดามหามุนีปาลนาคราช ที่วัดรอยพระบาทภูมโมรมย์แห่งนีเ
จุดที่สอง คณะของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เดินทางไปที่วัดมโนภิรมย์ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร มีอายุกว่า 300 ปี สร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย โบสถ์วัดมโนภิรมย์ เป็นศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม แบบเขมร ไทย ลาวผสมผสานกัน แต่ทุกอย่างประณีตอ่อนช้อยงดงาม
จุดสุดท้ายที่คณะของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เดินทางไป คือ วัดพระศรีมหาโพธิ์ ต.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เป็นวัดที่มีอายุ 116ปี ก่อตั้งปี พ.ศ.2450 ภายในวัดมีโบราณสถาน คือโบสถ์เก่าแก่สร้าง เมื่อปี พ.ศ.2459 เป็นศิลปะไทย ผสมฝรั่งเศส และเวียดนาม ที่ผนังมีภาพจิตรกรรมเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดก ที่เป็นฝีมือของช่างพื้นบ้าน รวมทั้งภาพเหตุการณ์ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจหัวเมืองในมณฑลอีสาน โบสถ์นี้จะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไป
เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ในการมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งแรกโดยยังต้องติดตาม แผนการวิจัยในหัวข้อ อิทธืพลความเชื่อเรื่องพญานาคที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในลุ่ มน้ำโขง ที่มีแผนศึกษาวิจัยในหัวข้อเดียวกัน ที่ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา รวมทั้งในปีนี้ จะเปิดหลักสูตร“ภาวะผู้นำที่มั่นคงในวิถึพุทธ‘” ทั้งหมดเป็นความร่วมมือของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของมูลนิธิวีระภุชงค์
