หอการค้าขอนแก่น ระบุ ประเมินสถานการณ์โควิดทุก 14 วัน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการค้า การลงทุน
รับไตรมาส 2 ของปี หลังมาตรการคลายล็อคที่รัฐบาลกำหนดมีมาอย่างต่อเนื่อง ขณะทีผู้ประกอบการปรับตัวทัน รับมือได้ในทุกสถานการณ์ หลังเจอมาแล้วทุกรูปแบบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค.2565 นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ที่เข้าสู่การระบาดในระลอกที่ 4 ในภาพรวมด้านการค้าการลงทุน ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ซึ่งขณะนี้มาตรการควบคุมต่างที่รัฐบาลได้กำหนดมานั้นภาคการค้า และการลงทุน และนักธุรกิจได้มีการปรับตัวตาม โดยเฉพาะกับการคลายล็อคในเรื่องของการเดินทางเข้าประเทศและมาตรการต่างๆที่มีผลบังคับใช้เริ่มวันที่ 1 มี.ค. ตามที่ ศบค.กำหนด
“จากอดีต 2 ปี ที่ผ่านมาช่วงเปิดประเทศธุรกิจท่องเที่ยวและงานด้านบริการนั้นได้กลับมาเร็ว แต่ถ้าเดินทางไม่ได้ เราก็จะเห็นกลุ่มธุรกิจแบบเดลิเวอรี่ และค้าขายแบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งก็จะมีผลดีผลเสียแต่ละธุรกิจที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการที่รัฐบาล หรือคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัดมีการกำหนดในการประชุมตามแนวทางการประเมินในทุก 14 วัน จะเป็นจังหวะชี้ขาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะขึ้นหรือว่าคุมได้ เหมือนกับเบรกสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามและทุกคนต้องระมัดระวังตัวเยอะขึ้น ถ้าชะลอหรือคุมได้ในจำนวนที่คาดไว้แปลว่าหลังจากนั้นปลายเดือนมีนาคม เมษายน เข้าเทศกาลสงกรานต์ เรื่องประเพณีวัฒนธรรม เปิดโรงเรียนเราจะสามารถคาดการณ์ได้ก็จะกลับมาปกติ“
นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์ลามไปเรื่อยๆก็จะบอกไม่ถูกว่าเดือนถัดๆนั้นทุกคนจะเจออะไรกันบ้าง จึงอยากให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานนั้นได้ให้ความร่วมมือกันเนื่องจากทุกคนคุ้นชินในมาตรการควบคุมและป้องกันมาอย่างต่อเนื่องและดำเนินการกันอย่างเข้มข้น และผ่านวิกฤติเหตุการณ์มาด้วยกันแล้วเกือบ 2 ปี ดังนั้นในปีนี้ต้องใช้หลักเหตุผลและความเข้าใจกันให้เยอะขึ้น และต้องยอมรับว่าประชาชนมีความรู้เยอะขึ้น ภาคธุรกิจ การค้า และการลงทุน ล้วนต่างมีความรู้ มีการเตรียมตัว และมีหลากหลายรูปแบบธุรกิจที่เกิดจากการปรับตัว ซึ่งถ้าทุกฝ่ายทำได้ดีธุรกิจและเศรษฐกิจก็จะคืนกลับมาโดยเร็วในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้