ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.สนาม มธ.โพสต์ผ่านเพจเฟสบุ๊กระบุ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์เ
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม วันที่ 196 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์วันที่ 134 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตและวันที่ 112 ของศูนย์ธรรมศาสตร์ Home Isolation inสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์เวฟ 3+4 ซึ่งเราวางแผนว่าจะยุติการให้บริการของรพ.สนามในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบ 200 วันของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์พอดิบพอดี แต่ดูเหมือนมีเหตุการณ์หลายอย่างที่บอกว่า พวกเราน่าจะยังไม่ควรหยุดทำงานเรื่องโควิดตอนนี้ เพราะตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วเราได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยว่า เกิดคลัสเตอร์ใหม่ในหอพักนักกีฬาที่เก็บตัวอยู่ชั้นล่างเมนสเตเดียมของศูนย์รังสิต และพบผู้ป่วยยืนยันแล้ว5 ราย กับมีผู้อยู่ในข่ายสงสัยติดเชื้อหรือเป็น PUI อีกหลายสิบคนผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยในข่าย PUI อีกรวมกันราว 30 คน ถูกส่งเข้าสังเกตอาการ และรักษาตัวในรพ.สนามธรรมศาสตร์เมื่อคืนนี้ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยที่เหลืออยู่ใน รพ.สนามเพิ่มจากราวสามสิบคน กลายเป็น 66 คนเมื่อคืนนี้แต่เราก็ยังคงกำหนดการปิดรพ.สนามธรรมศาสตร์เวฟนี้ในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคมนี้ไว้เหมือนเดิมนะ ได้เชิญประธานในพิธีปิดการดำเนินงานรพ.สนามไว้ด้วยแล้วล่ะ
ในโรงพยาบาลหลักของเรา เช้าวันนี้ รพ.ธรรมศาสตร์มีผู้ป่วยยืนยันผลบวกจากการทำ RT-PCR เพิ่มอีกเพียง 4 ราย จากการตรวจ 116 ราย ก็ยังเป็นสัดส่วนที่ต่ำ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิดซึ่งรักษาตัวอยู่กับเราเช้านี้มีอยู่ 38 คน จากจำนวนเตียงผู้ป่วยโควิดทั้งหมด 116 เตียงที่พวกเราเตรียมการไว้ สำหรับผู้ป่วยวิกฤตยังเหลืออยู่ในรพ.ธรรมศาสตร์ และมีผู้ป่วยอาการวิกฤติเหลืออยู่เพียง 3 ราย ไม่มีรายใดเป็นผู้ป่วยสีแดงเข้มถึงขนาดต้องใส่ Tube อีกเลย ภาพรวมเช่นนี้คงยืนยันว่าสถานการณ์ได้ดีขึ้นมากแล้วในกทม.และปริมณฑล แต่คงไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อพิจารณาภาพรวมของประเทศทั้งหมดนะ
ที่ Home Isolation ในวันที่ 112 นี้ สถานการณ์ยังทรงตัวเช่นเดิม มีผู้ป่วยรับเข้ามาใหม่ในระดับวันละไม่เกินสามคน และผู้ป่วยแอคทีฟที่ยังต้องดูแลรักษามีอยู่จำนวน 53 คนจากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 2,450 คน
สำหรับสถานการณ์โควิดของประเทศวันนี้ มีผู้ป่วยโควิดรายใหม่ (ไม่รวม ATK) จำนวน 10,111 คนและเสียชีวิตรวม 63 คน ตัวเลขเฉลี่ยทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นหมื่นเคสต่อวัน (ไม่รวม ATK) แปลว่า ตลอดเดือนตุลาคมมานี้ ประเทศเราไม่เคยมีผู้ป่วยโควิดรายใหม่ที่มีจำนวนลดลงเลย เพียงแต่ว่า ในเดือนตุลาคมนี้ ผู้ป่วยในเขตกทม.และปริมณฑลลดลง แต่กลับไปเพิ่มที่สี่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีกสามจังหวัดทางภาคตะวันออก ซึ่งมาแรงแซงกทม.และปริมณฑลไปแล้ว ถ้าถือเป็นการแข่งขัน เกมส์การแข่งนับจำนวนผู้ป่วยใหม่นี้ คงเป็นเกมส์ที่ไม่มีใครอยากเป็นผู้ชนะหรอก ด้วยเหตุที่จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกมีผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังนี้นี่เอง ทำให้จังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นที่ตั้งของรพ.ธรรมศาสตร์ ที่เคยมีจำนวนผู้ป่วยโควิดรวมมากเป็นลำดับที่ 7 ของประเทศมาหลายเดือนติดต่อกัน ตกลำดับมาเป็นลำดับที่เก้าของประเทศ เมื่อนับจำนวนผู้ป่วยโควิดโดยรวม ลำดับที่ลดลงนี้ทำให้พวกเราที่นี่เบาใจลงได้นิดนึงแล้วล่ะ แต่อดไปห่วงเพื่อนร่วมรบในเขตจังหวัดอื่นๆ ไม่ได้
สำหรับที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ที่ยิม 4 ช่วง 15-20 ตุลานี้เป็นช่วงที่พวกเรานัดฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นหลัก และพบว่ามีปัญหาการเข้าถึงข้อมูลของคนที่จองคิวฉีดเข็มแรกซึ่งไม่สามารถตรวจสอบคิวการนัดใน#หมอพร้อมได้ ก็เลยมีคนมารับวัคซีนเข็มแรกกับเรา มีจำนวนเพียงประมาณวันละ 700-800 คนเท่านั้น เนื่องจากจนถึง 20 ตุลาเราแทบไม่ได้ลงนัดคิวเข็มสองไว้เลย แต่ว่า ตั้งแต่พฤหัส 21 ตุลาไปแล้ว ก็จะมีนัดเข็มสองเดิมเป็นหลักวันละพันกว่าคนเหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้เราจึงสามารถยืนยันการมีวัคซีน Astra เหลือเพียงพอให้ได้จนถึงวันที่ 21 ตุลาคม อย่างแน่นอนล่ะ
สำหรับเรื่องการจัดหายา วัคซีนและเวชภัณฑ์สำหรับโควิด19 มาใช้ในโรงพยาบาลของเราเองนั้นขอเรียนให้ทราบเพิ่มเติมว่า จากห้าเรื่องหลักที่เราได้รายงานให้ทราบไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมากในเรื่องวัคซีน mRNA และเราแน่ใจว่าภายในเดือนตุลาคม –ที่เหลืออีกเพียงสิบกว่าวันนี้ –ธรรมศาสตร์อาจจะมีข่าวดีในเรื่องวัคซีน Moderna มาแจ้งให้ทราบได้ แต่ว่า พวกเราก็เผื่อใจเอาไว้บ้างอยู่แล้วนะว่าเรื่องวัคซีน mRNA นี้ ถือเป็นอะไรที่ยากลำบากและพลิกผันได้ตลอด แม้กระทั่งองค์กรที่รัฐบาลมอบหมายให้ไปดำเนินการโดยตรงก็ยังต้องประกาศเลื่อนกำหนดเวลาอยู่เป็นระยะ ๆ ฉะนั้น องค์กรที่พยายามจะช่วยทำโดยไม่มีรัฐบาลช่วยจัดงบประมาณและไม่ได้ใช้ชื่อของประเทศโดยตรง อย่างพวกเรา ก็อาจจะล้มเหลวหรือผิดพลาดได้มากยิ่งกว่า แต่อย่างน้อยพวกเราก็มีใจและได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะช่วยเหลือผู้คนในประเทศนี้แล้วล่ะ สิ้นเดือนนี้จะได้รู้กันว่าพวกเราจะทำสำเร็จหรือล้มเหลว ในภารกิจ “เพื่อชาติและประชาชน” ที่พวกเราคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ที่พวกเราจะต้องช่วยกันทำในครั้งนี้
น่ายินดี ที่เมื่อวานนี้ ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศข้อบังคับของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ประกาศพันธกิจของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ของ มข.ในการดำเนินการเรื่องการจัดหายา วัคซีน และเวชภัณฑ์เกี่ยวกับโควิด19 เข้ามาช่วยเหลือผู้คนได้อีกแห่งหนึ่ง ตามที่พวกเราที่นี่ได้ทำไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว ช่วยกันหลาย ๆ แห่ง คนละไม้คนละมือ ผู้คนในประเทศจะได้อุ่นใจและมีความหวังมากยิ่งขึ้นไปกว่าการรอคอย ให้หน่วยงานหลักของรัฐที่มีหน้าที่อยู่เดิมทำอะไรไปตามลำพัง ประโยชน์ ถ้าหากจะมี ก็คงจะตกเป็นของผู้คนทั้งแผ่นดินนะ
#โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลเพื่อรับใช้ประชาชน