ผอ.รมน.ภาค1 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลตำบลบางขะแยง
.
ที่ ศาลาการเปรียญวัดตลาดเหนือ เทศบาลตำบลบางขะแยง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ท. สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ผอ.รมน.ภาค1 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลตำบลบางขะแยง โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกฯอบจ.ปทุมธานี พันเอก ชิตพล กึนสีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปทุมธานี นางสาวธนิยา นัยพินิจหัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี นายอภิวัฒน์ เลาหวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนเข้าร่วมลงพื้นที่
เวลา 15:10 น.พล.ท.อุดม โกษากุล ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่1 กอ.รมน. เป็นประธานในพิธีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2564 และส่งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนในพที่
โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ณ วัดตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยการอำนวยการของ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองช่าง นำเรือโป๊ะขุดลอกคลอง ลงพื้นดำเนินการขุดลอกคลอง กำจัดผักตบชวาและวัชพืชเพื่อรองรับการเก็บกักน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆและเตรียมความพร้อมในการระบายน้ำเมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ให้เกิดความสวยงามพร้อมอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักในการขุดลอกคลองที่บริเวณหมู่บ้าน CENTRO และชุมชนทองแท้ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ขณะที่จังหวัดปทุมธานี แจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้น โดยเฉพาะเขตอำเภอสามโคก และอำเภอเมืองปทุมธานีเฝ้าระวังปริมาณน้ำสะสมจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน ลุ่มน้ำป่าสักที่เพิ่มขึ้น เตรียมความพร้อมยกสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่จังหวัดติดตามสถานการณ์ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย
รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ออกหนังสือ ด่วนที่สุด หลังได้รับแจ้งถึงปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอีกทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำอำเภอบางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (C.29A) ก่อนเข้าพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อยู่ในอัตราประมาณ 3,000-3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยอาจจะทำให้กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้น อำเภอสามโคก และอำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อความปลอดภัยและเตรียมการล่วงหน้า ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้นน้ำ
อำเภอสามโคก และอำเภอเมืองปทุมธานี ร่วมทั้ง เกษตรกร ที่ประกอบอาชีพประมงเพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทห้างร้าน งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เตรียมความพร้อมยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดปทุมธานี จะติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งประสานเพื่อเตรียมความพร้อม กำลังพล วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร และยานพาหนะให้พร้อมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง