แม่และครอบครัวพาลูกสาววัย 13 ปี เดินทางจากจ.น่าน ร้องทุกข์ “ปวีณา” ลูกสาวถูกกลุ่มทรชนนับสิบพยายามจะมอมเหล้าพาไปรุมโทรม
เด็กขัดขืนวิ่งหนีจนถูกหินบาดเท้าล้มลงถูกล็อกคอฉุดลากเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์จับขึงพืดผลัดกันรุมโทรมยับเยิน แจ้งความแล้วแต่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี
ที่มูลนิธิปวีณา : วันนี้ 17 ม.ค.68 เวลา 16.00 น. แม่และครอบครัวพาลูกสาววัย 13 ปี เดินทางมาจากจ.น่าน ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนอายุระหว่าง 14-18 ปี ล่อลวงไปที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในอ.นาน้อย จ.น่าน พยายามจะมอมเหล้ารุมโทรมแต่ลูกสาวขัดขืนวิ่งหนีจนถูกหินบาดเท้าก่อนถูกฉุดลากตัวเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นสิบกว่าคนจะช่วยกันจับขึงพืดผลัดกันรุมโทรม เหตุเกิดคืนวันที่ 26 ธ.ค.67
คืนนั้นแม่สงสัยว่าทำไมลูกสาวไม่กลับบ้านทั้งที่ขออนุญาตไปบ้านเพื่อนเพื่อซ้อมเต้นเพื่อจะไปโชว์ในงานปีใหม่ จนเช้าแม่จึงไปตามที่บ้านเพื่อนลูกสาวก่อนจะรับตัวน้องกลับมาบ้าน ซึ่งลูกสาวมีอาการเซื่องซึมไม่พูดจา เหมือนจะไม่มีแรงเดินและเดินล้ม แม่สงสัยว่าลูกเป็นอะไรแต่ลูกอ้างว่าเจ็บขาเพราะหกล้ม วันที่ 31 ธ.ค.67 หลังผ่านไป 5 วัน ลูกสาวยังผิดปกติเดินไม่ไหวเซื่องซึมลงทุกวัน แม่จึงเค้นถามจนลูกยอมบอกว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมโทรมที่รีสอร์ท
โดยลูกสาวบอกว่า หลังซ้อมเต้นกับเพื่อนผู้หญิงรวม 4 คน เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งได้ชวนไปหาแฟนซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่รีสอร์ท เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายวัยรุ่นสิบกว่าคนที่ไม่รู้จักนั่งก่อกองไฟล้อมวงกินเหล้าอยู่ข้างโฮมสเตย์ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นชายได้พยายามจะมอมเหล้าลูกสาว แต่ลูกสาวปฏิเสธก็ถูกคะยั้นคะยอกึ่งบังคับแล้วดื่มไปนิดเดียว พอจะลุกหนีพวกผู้ชายก็เข้ามากอดและล็อกคอฉุดลากเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ทั้งสิบกว่าคน ลูกสาวดิ้นสู้วิ่งหนีออกมาได้ก็ถูกจับเข้าไปในห้องที่ 2 อีกครั้ง โดยวัยรุ่นชายสิบกว่าคนช่วยกันจับแขนจับขาขึงพืดให้ลูกนอนบนเตียงไม่ให้ดิ้นแล้วผลัดกันลงมือข่มขืนที่ละคนจนสำเร็จความใคร่
ลูกสาวจำหน้ากลุ่มที่ก่อเหตุได้เกือบทั้งหมดสิบกว่าคนแต่รู้ชื่อเพียง 5 คน และมีพยานคือเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เคาะประตูเพื่อช่วยเหลือออกมาจากห้อง แต่กลุ่มที่ก่อเหตุไม่ยอมเปิดประตู และมีวัยรุ่นชายอีกหลายคนที่ยังอยู่ในวงเหล้าคอยดูต้นทาง เพื่อนผู้หญิงจึงรอจนลูกสาวถูกปล่อยจึงรับกลับบ้าน แม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความแล้วที่สภ.นาน้อย วันที่ 31 ธ.ค.67 แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มวัยรุ่นชายที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นลูกหลานผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเอาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย
ปู่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกสะใภ้เป็ยนแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะลูกชายตนเองไม่อยู่ ปี่จึงต้องดุแลทั้งลูกสะใภ้และหลาน ปู่สงสัยว่าทำไมโฮมสเตย์ดังกล่าวจึงปล่อยให้เด็กสามารถไปเปิดห้องพักได้ถึง 2 ห้องมั่วสุมกันและก่อเหตุแบบนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้หมดเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ใครกล้าทำแบบนี้อีก
หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อเร่งดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย และสอบสหวิชาชีพเยาวชนชาย 5 คนที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายได้ให้ชื่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วเพื่อจะได้ขยายผลไปถึงผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.นี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และปู่พร้อมทั้งลูกสาวไปพบ พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด
นางปวีณา กล่าวว่า ขณะนี้เคสข่มขืนกระทำชำเราเกิดขึ้นเยอะมาก นอกจากเคสนี้แล้ว วันนี้มูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสาน พ.ต.อ.จักรพงศ์ ตราบดี ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม จับกุมพ่อแท้ๆ ข่มขืนลูกสาวอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น และยังมีเคสที่นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย ผกก.สภ.ปลวกแดง ออกหมายจับแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ข่มขืนเด็กหญิง 3 ขวบ ซึ่งพ่อเป็นพ่อค้าตลาดนัดปล่อยลูกสาววิ่งเล่นถูก รปภ.ล่อลวงไปในรถและล่วงละเมิดทางเพศ วันนี้สังคมน่าห่วงใยอย่างยิ่ง จึงอยากเตือนภัยให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ปล่อยพระละเลย หรืออย่าปล่อยให้ลูกไปที่ไหนนานๆ เพราะไว้ใจใครไม่ได้ เพราะอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ส่วนพวกที่เป็นภัยต่อสังคมก็ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดอย่าปล่อยให้ลอยนวล