เชียงใหม่ เเม่เหยื่อเนอร์สเซรีโหดร้องปวีณา ลูกสาว 9 เดือน ถูกพี่เลี้ยงเนอร์สเซอรีมัดแขนทรมาน
เอาแพมเพิร์สคลุมหัว อีกราย ลูกชาย 2 ขวบถูกตบหัวอย่างแรง เช้านี้ปวีณาพาสองแม่เหยื่อเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ขอตรวจสอบมาตรฐานเนอร์สเซอรีแห่งนี้
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา น.ส.แวว (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า ลูกชายวัย 2 ขวบของตนที่ได้ไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรีแห่งหนึ่งใน อ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ถูกพี่เลี้ยงเด็กของเนอร์สเซอรีดังกล่าวทำร้ายด้วยการตบหัวอย่างแรงบ่อยครั้ง ในช่วงตลอด 1 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ทั้งนี้ตนได้ข้อมูลและภาพหลักฐานจากพี่เลี้ยงอีกคนที่ทนพฤติกรรมอันโหดร้ายนี้ไม่ไหว ได้พยายามเก็บภาพ และหาทางแจ้งข้อมูลนี้ให้ตนทราบ
ผู้เปิดเผยพฤติกรรมทารุณนี้ คือ นส. เอ (นามสมมติ) เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เพิ่งเข้าไปทำงานได้ 1 เดือน อายุ 25 ปี
น.ส.เอ เล่าว่า เธอได้รับเงินเดือน 7,500 บาท ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นหน้าที่ของเธอ คือ ทำงานร่วมกับพี่เลี้ยงอีกคนที่มีอายุงาน 2 ปี ทั้ง 2 คน ต้องดูเเลเด็กทั้งหมด 15 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป แต่สิ่งที่เธอพบ ไม่ใช่การดูแลเด็กเล็กตามปกติที่ควร แต่กลับพบพฤติกรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เด็กเล็กถูกกระทำรุนแรง โดยพี่เลี้ยงอีกคน ชื่อ น.ส.บี ( นามสมมติ ) อายุ 50 กว่าปี ซึ่งอ้างว่าต้องทำรุนแรงเพื่อให้เด็กกลัว โดยทั้ง กระชาก หยิก ตบหน้า ด่าทอ “ไม่มีเด็กคนไหนไม่ถูกตี” เธอบอก นั่นหมายถึง เด็กๆทุกคนในเนอร์สเซอรีนี้ล้วนถูก น.ส.บี กระทำ!!!
น.ส.เอ ทนไม่ไหวจึงเก็บภาพเเละคลิป เด็กชาย 2 ขวบ ถูกตบหัวอย่างแรง และยังถ่ายภาพและคลิปเด็กหญิงอายุเพียง 9 เดือน ถูกทรมาน ด้วยการจับมัดมือแนบตัว และเอาแพมเพิร์สคลุมหัวปิดหน้าปิดตาด้วย ซึ่งพฤติกรรมนี้ ไม่ได้ทำกับน้อง 9 เดือนคนนี้เท่านั้น แต่เด็กทารกอายุที่ไม่ถึงขวบ ถ้าร้องไห้ก็ถูกจะจับมัดคลุมหัวด้วยแพมเพิร์สจนกว่าจะเงียบ หรือจนกว่าจะถึงเวลาแม่มารับกลับบ้าน
เมื่อ น.ส.เอ เห็นพี่เลี้ยงรุ่นพี่กระทำทารุณกับเด็กๆบ่อยครั้งก็ทนรับสภาพไม่ไหว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจลาออกจากงานและเอาหลักฐานที่มีแจ้งให้แม่ของเด็กชาย 2 ขวบ และแม่ของเด็กหญิง 9 เดือนทราบ แม่ของเหยื่อทั้ง 2 จึงร้องขอความช่วยเหลือต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2566
หลังนางปวีณาประธานมูนิธิปวีณาฯ รับเรื่องก็ได้ประสาน พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัยผกก.สภ.แม่ปิง ให้แม่เหยื่อทั้งสองไปพบเพื่อแจ้งความ โดยมี พ.ต.ท. ภิรมย์ ยศตรังสารวัตรสอบสวนรับแจ้งความ และเร่งรัดให้สอบสหวิชาชีพ แต่ปรากฏว่า ในช่วงเวลานั้น เด็กชาย 2 ขวบยังพูดไม่ได้ แต่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เป็นภาพขณะพี่เลี้ยงตบหัวตบหน้าอย่างแรง และมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ ที่พร้อมให้ปากคำ ว่ามีการกระทำรุนแรงทุกวัน และมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานส่งข้อมูลให้ พมจ.วรพงษ์ บุญเคลือบ จังหวัดเชียงใหม่ได้ช่วยติดตามคดีนี้ด้วย
นางปวีณา กล่าวว่า หลังได้เห็นที่ภาพที่แม่ทั้งสองคนส่งคลิปลูกถูกทำร้ายมาให้ดูก็รู้สึกตกใจ รับไม่ได้ เนื่องจากเหยื่อยังเล็กมาก โดยเฉพาะ เด็กหญิง 9 เดือน ที่ถูกมัดทรมานเป็นการกระทำความรุนแรงที่เลวร้ายต่อเด็กอย่างยิ่ง และกรณีเด็กชาย 2 ขวบที่ถูกตบหน้าตบหัวอย่างแรงในขณะที่กำลังป้อนข้าว เด็กชายก็มีอาการหวาดกลัว แม่เด็กชายเล่าว่า ลูกจะร้องไห้ทุกวันไม่ยอมเข้าเนอร์สเซอรี
ส่วนแม่น้อง 9 เดือน ได้เล่าว่า หลังจากที่เข้าแจ้งความ ทางด้านเจ้าหน้าที่ของเนอร์สเซอรี ได้ไปให้การกับตำรวจ อ้างว่า ได้รับอนุญาตจากแม่ให้มัดเด็กได้ ตำรวจได้สอบถามมายังแม่น้อง 9 เดือนว่าจริงหรือไม่ ทำให้แม่น้องรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง และรู้สึกเศร้าใจมากที่มีความพยายามบิดเบือนความจริงเช่นนี้
น.ส.เเวว แม่ของเด็กชาย 2 ขวบ เล่าทั้งน้ำตา เธอรู้สึกสงสารลูกมาก โทษตัวเอง และนอนร้องไห้ 2 วัน 2 คืน จนแทบเป็นซึมเศร้า อยู่คนเดียวลำพังไม่ได้ โชคดีที่มี น.ส.กิ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนช่วยดูเเล ติดต่อนักข่าวในพื้นที่ช่วยตีเเผ่ข่าวนี้ หลังจากที่ข่าวออกไป ก็มีเหยื่อโผล่อีกหลายราย !!!
น.ส.กิ่ง เล่าว่า หลังจากที่ข่าวถูกโพสต์ ก็มี
บรรดาเเม่ๆ ผู้ปกครอง ที่เคยส่งลูกมาฝากกับเนอร์สเซอรีแห่งนี้มาเเสดงความคิดเห็นหลายคน
บางคนเคยเห็นเหตุการณ์ กระชากเด็กแรงๆ บางคนเล่าชัด ลูกถูกพี่เลี้ยงเอาหนังยางดีดหัว โดนตบหัว นอกจากนั้นยังมีอดีตพี่เลี้ยงเเละอดีตเเม่บ้าน มาให้ข้อมูลอีกด้วย ว่าเห็นเหตุการณ์ทารุนเด็กบ่อยครั้ง ซึ่งเห็นเเล้วทนไม่ได้ บางคนทำงานเป็นพี่เลี้ยงได้เเค่ 2 วันก็ลาออก
หลังคดีนี้เป็นข่าว แม่ของน้อง 2 ขวบ เปิดเผยว่าทางเจ้าของเนอร์สเซอรี่ ไม่พอใจมาก จึงระงับข้อตกลงเยียวยาเหยื่อทั้งสอง และยังกล่าวหาว่า แม่เหยื่อเป็นผู้ทำให้เนอร์สเซอรีเสียชื่อเสียง
ตอนนี้ แม่เหยื่อทั้งสองรายรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆที่หลักฐานชัดเจน ตนต้องการให้เจ้าของเนอร์สเซอรีขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของพี่้ลี้ยงโหด ที่ทำต่อเด็กๆอย่างเลวร้ายและขอให้ทางมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดต่อพี่เลี้ยงใจโหด และต้องการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบมาตรฐานการดูแลเด็กๆของเนอร์สเซอรีเเห่งนี้ย้อนหลังด้วย
วันนี้เวลา 09.00 น.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พาเเม่เหยื่อทั้งสอง รวมถึงพี่เลี้ยงผู้เห็นเหตุการณ์ทารุนเด็กเข้าพบ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร้องทุกข์และเร่งให้มีการตรวจสอบเนิร์สเซอรี่ดังกล่าว
โดยวันนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเรื่องจากนางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมประชุมโดยด่วนเช้านี้(14 ธ.ค.66) เวลา 9.00 น. ที่ศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมูลนิธิปวีณาจะร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ติดตามคดีและการช่วยเหลือเด็กให้ถึงที่สุด