ปวีณา” พาแม่และลูกสาวม.2 ลงพื้นที่จว.พิจิตร ติดตามช่วยเหลือกรณีเด็กหญิงถูกนักเรียนชาย 5 คน รุมโทรม
ถ่ายคลิปแชร์โซชียล ซ้ำถูกทางโรงเรียนบังคับลาออก! มอบหลักฐานคลิปเสียงขณะเกิดเหตุเด็กหญิงกรีดร้องพยายามดิ้นรนขัดขืนขอความช่วยเหลือให้ตำรวจ ตั้งข้อสังเกตเด็กหญิงรุ่นพี่ม.3 ที่พาไปเป็นแฟน 1 ใน 5 เด็กชายที่ก่อเหตุ มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ เพราะขณะเกิดเหตุหลบไปนั่งอยู่ไม่ไกลทำไมไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือตามคำให้การของเด็กหญิงผู้เสียหาย ขอตำรวจสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมประชุมหารือร่วมกับ ตำรวจ กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาสังคมฯ ดำเนินการเร่งด่วน ลบคลิปที่ถูกแชร์ว่อนเน็ต ช่วยให้เด็กได้เรียนที่โรงเรียนเดิมตามความประสงค์ ดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจพร้อมติดตามคดี ด้าน พม.ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัว 5 เด็กชายที่ก่อเหตุ หาสาเหตุแรงจูงใจเพื่อปรับพฤติกรรม
วันที่ 24 ม.ค.66 เวลา 13.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาแม่เด็กนักเรียนหญิงม.2 ผู้เสียหาย ลงพื้นที่จว.พิจิตร โดยได้ประสานพล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จว.พิจิตร พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 (ผู้การฯไซเบอร์) ก่อนเดินทางไปที่ สภ.หนองโสน จว.พิจิตร นางปวีณา ได้เชิญทุกหน่วยงานมาบูรณาการประชุมร่วมกัน โดยมี พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลกพ.ต.อ.สุเมธ เงินบำรุง ผกก.สภ.หนองโสน ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทน พมจ. กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมประชุม
นางปวีณา ได้มอบหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคลิปเสียงขณะเกิดเหตุเด็กหญิงเหยื่อรุมโทรมกรีดร้องพยายามดิ้นรนขัดขืน พร้อมตั้งข้อสังเกตเด็กหญิงรุ่นพี่ม.3 ที่พาไปในป่า เป็นแฟน 1 ใน 5 เด็กชายที่ก่อเหตุ มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ เพราะขณะเกิดเหตุหลบไปนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ตามคำให้การของเด็กหญิงผู้เสียหาย แต่ทำไมไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องและเข้ามาช่วยเหลือ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
โดยสรุปการดำเนินการช่วยเหลือดังนี้ 1.ทีมตร.ไซเบอร์ติดตามลบคลิปในโซเชียลให้รวดเร็ว 2.สภ.หนองโสน สรุปการดำเนินคดีให้เป็นธรรมให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย 3.กระทรวงศึกษาธิการให้เด็ก นักเรียนหญิงเข้าเรียนต่อโรงเรียนเดิมตามความประสงค์ 4.พมจ.และบ้านพักเด็กฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าดูแลฟื้นฟูสภาพจิตนักเรียนหญิงผู้เสียหาย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนชาย 5 คนที่ก่อเหตุเพื่อปรับพฤติกรรม 5.มูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้ร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดต่อไป
โดยในวันนี้นางปวีณา ได้ประสาน นางปิยนาฎ เสงี่ยมศักดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และนายภัคสรร กาลือ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิจิตร มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมประชุมด้วย
สืบเนื่องจาก..
จว.พิจิตร 23 ม.ค.66 แม่ร่ำไห้พาลูกสาวม.2 ร้อง “ปวีณา” ถูก 5 นักเรียนชายม.2 เพื่อนร่วมห้องลวงไปจับขึงผืดรุมโทรมถ่ายคลิปในป่าหลังโรงเรียน คลิปว่อนเน็ตเรื่องถึงหูแม่แทบช็อก! ซ้ำโรงเรียนยังให้เด็กหญิงย้ายไปเรียนที่อื่นทั้งที่เป็นผู้ถูกกระทำ แม่กลัวลูกคิดสั้นพบมีอาการเครียดจัด เก็บตัวคนเดียว ไม่กล้าออกไปไหนเพราะอับอาย ขอให้มูลนิธิปวีณาฯช่วยติดตามคดีให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ ลบคลิปที่แชร์ว่อน และให้ลูกสาวได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 23 ม.ค.66 ที่ทำการมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางเอ อายุ 28 ปีพาด.ญ.บี ลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง (ทั้งสองนามสมมุติ) เดินทางมาจากจ.พิจิตร เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่าวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวไปโรงเรียนตามปกติ ช่วงพักกลางวัน น.ส.ซี อายุ 15 ปี รุ่นพี่ม.3 ได้ชักชวนให้ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอาไปให้กลุ่มเพื่อนนักเรียนชายม.2 จำนวน 5 คน ที่ไม่เข้าชั้นเรียนและไปหลบซ่อนอยู่ในป่าหลังโรงเรียน โดยนักเรียนชาย 5 คน แชทมาบอก น.ส.ซี เพื่อนรุ่นพี่ให้ซื้อบะหมี่ให้ด้วย น.ส.ซี จึงให้ น.ส.บี ซื้อไปให้นักเรียนชาย5 คน ด้วยกันที่ป่าหลังโรงเรียนห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อไปถึงเอาของให้กลุ่มนักเรียนชายเสร็จ น.ส.ซี ได้เดินแยกออกไปนั่งอยู่ริมน้ำห่างจากจุดที่เกิดเหตุอยู่ประมาณ 200 เมตร ส่วนด.ญ.บี ถูก 1 ใน 5 ด.ช.ดึงตัวไว้ ก่อนจะผลักลงกับพื้นโดย 2 คน จับแขนและขาขึงเพื่อให้ด.ช.อีก 3 คน เรียงคิวกันข่มขืนและถ่ายคลิปไว้ หลังเกิดเหตุด.ญ.บี กลัวตัวสั่นและอับอายจึงไม่กล้าบอกใคร เมื่อกลับมาถึงบ้านแม่เห็นลูกสาวผิดปกติ ซึมเศร้า อยู่ห้องคนเดียวไม่ยอมพูดกับใคร
กระทั่งวันที่ 13 ม.ค. หลานชายของแม่ อายุ 18 ปี ได้เห็นคลิปด.ญ.บี ถูกรุมโทรมแชร์ในโซเชียลจึงได้รีบมาบอก และแม่เป็นลมหมดสติด้วยความช็อค แม่ทำงานโรงงานกลับมาบ้านได้สอบถามเรื่องทั้งหมดจากลูกสาวก่อนจะพาไปพบครูที่โรงเรียนพาเข้าแจ้งความที่สภ.หนองโสน ตำรวจส่งตรวจร่างกายและสอบสหวิชาชีพแล้ว โดยครูได้เรียกผู้ปกครองของ 5 นักเรียนชายที่ก่อเหตุมาเจรจากับแม่ หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้แจ้งให้แม่พาลูกย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่น ซึ่งแม่คิดว่าไม่เป็นธรรมทั้งที่ลูกสาวถูกกระทำได้รับความอับอายขนาดนี้ทางโรงเรียนยังให้ลาออก ขณะที่นักเรียนชาย 5 คนที่ก่อเหตุทางโรงเรียนก็ให้ลาออกไปเรียนที่อื่นเช่นเดียวกัน ตอนนี้ลูกสาวมีอาการเครียดจัดจะเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่กล้าออกไปไหนเพราะอับอาย แม่กลัวว่าลูกจะคิดสั้น และไม่รู้จะพึ่งใคร จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรม ต้องการที่เรียนใหม่ และติดตามคดีเพื่อให้คนกระทำผิดได้รับโทษ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.กำธร จันทีผบก.ภ.จว.พิจิตร พล.ต.ต. ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ( ผบก.สอท.4 ) พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สุเมธ เงินบํารุง ผกก.สภ.หนองโสน นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. และนายนิสิต เนินเพิ่มพิสุทธ์ผอ.ปฎิบัติหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. มอบหมายให้ นายอำนาจ อัปษร รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 และนายเดชา ห้องแซง เจ้าหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. มาประชุมร่วมกับนางปวีณา พร้อมแม่ และน้าเด็กหญิงที่มูลนิธิปวีณาฯเพื่อหามาตราการและแนวทางในการช่วยเหลือ
นางปวีณา กล่าวว่า เคสนี้เป็นเรื่องที่เลวร้ายและน่าสงสารนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำซ้ำซาก ถูกรุมโทรมถ่ายคลิปและนำมาเผยแพร่ในโซเชียล โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือแล้ว ดังนี้
1.พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการตำรวจสีบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ( ผบก.สอท.4 ) ช่วยติดตามลบคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล
2.ประสาน พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จว.พิจิตร พ.ต.อ.สุเมธ เงินบํารุง ผกก.สภ.หนองโสน จ.พิจิตร ติดตามคดีให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม และทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์
3.ประสานกระทรวงศึกษาธิการ ให้นักเรียนหญิงผู้เสียหายได้เรียนที่โรงเรียนเดิมเพราะเด็กไม่ใช่ผู้กระทำผิด
4.ประสาน นางปิยนาฎ เสงี่ยมศักดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร นายภัคสรร กาลือ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ให้เข้าไปดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงผู้เสียหาย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กชายทั้ง 5 คนที่ก่อเหตุ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือปรับพฤติกรรมให้อยู่ในสังคมได้ปกติสุข
5.ประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา
6.มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามทางด้านคดี การลบคลิปที่เผยแพร่ และการช่วยเหลือเคสนี้ต่อไป.