ผู้ว่าการรัฐพิหาร ร่วมประกาศศตวรรษแห่งธรรม กับเลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980
ใช้หลักธรรมพุทธเชื่อมทุกศาสนาเพื่อให้เกิดสันติสุข พร้อมเปิดทำเนียบ เมืองปัฏนะ ต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายราเชนทร์ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหาร เปิดทำเนียบ ที่เมืองปัฏนะ สาธารณรัฐอินเดีย ให้การต้อนรับคณะธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 ลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา ประกาศศตวรรษแห่งธรรม ณ แดนพุทธภูมิ นำโดยดร. สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 โดยมี Jangchup Choeden เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธนานาชาติ หรือ IBC องค์กรภาคีเครือข่ายเข้าร่วมด้วย
พิธีเริ่มจากการร่วมกันจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย และกล่าวรายงานเกี่ยวกับความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 และย้อนจุดเริ่มต้นของโครงการธรรมยาตราครั้งที่ 1 และ2 ที่ประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยง 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง ส่วนครั้งที่ 3 มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จากอินเดียไปประดิษฐานชั่วคราวยังประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นความสำเร็จของโครงการที่มีผู้เข้ากราบสักการะประมาณ 5 ล้านคน
จากนั้น Jangchup Choeden เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธนานาชาติ กล่าวว่า “พิหาร” มาจากคำว่า ‘วิหาร’ สถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา โดยรู้สึกชื่นชม ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ที่ทำให้เกิด”โครงการธรรมยาตรา“”มหาที่คงคาสู่ลุ่มน้ำโขง” โดยเมื่อต้นปี 2567 เลขาธิการฯ IBC ได้เดินทางไปยังวัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ สถานที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุไปประดิษฐานชั่วคราว ทำให้เห็นภาพประชาชนจำนวนมากต่อแถวยาวนานนับชั่วโมงเพื่อเข้าสักการะ ดังนั้นโครงการ ธรรมยาตราครั้งที่ 4 ลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา ณ.แดนพุทธภูมิ ได้สร้าง”หมุดหมายทางประวัติศาสตร์”ขึ้นด้วย”การประกาศศตวรรษแห่งธรรม”ถือเป็นภารกิจครั้งสำคัญที่จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ด้วยความรักและเมตตาที่มีต่อกัน
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า โครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 เกิดขึ้นบนแผ่นดินชมพูทวีป ซึ่งถือเป็นบ้าน เนื่องจากเมื่อ 18 ปีก่อน ได้เริ่มต้นการบวชเรียนบนแผ่นดินนี้ และยังได้ตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งโปรดให้สมณทูต 9 สายเดินทางเผยแผ่พุทธศาสนา โดยสมณทูตสายที่ 8 ได้แก่ พระโสณะ และพระอุตระ มุ่งสู่สุวรรณภูมิ คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ในลุ่มน้ำโขงยังคงนับถือ”ศาสนาพุทธ”
เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯยังย้ำถึงแรงบันดาลใจในการประกาศศตวรรษแห่งธรรม มาจากวิสัยทัศน์ของ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่กล่าวถึง ศตวรรษแห่งเอเชีย ซึ่งสอดคล้องกับความฝันของสถาบันโพธิคยาฯที่ต้องการใช้คำสอนในพุทธศาสนาเชื่อมทุกศาสนาเพื่อให้เกิดสันติสุข
นายราเชนทร์ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหารแสดงความประทับใจในสุนทรพจน์ของ ดร.สุภชัย และชื่นชมการจัดโครงการธรรมยาตรา โดยเฉพาะการเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุที่อัญเชิญไปจากอินเดีย ระหว่าง 22 มีนาคม-19 มีนาคม 2567 ซึ่งผู้ว่าการรัฐพิหารได้เดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุในครั้งนั้นด้วย ทำให้ได้เห็นว่าชาวไทยและอินเดีย นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน และใช้หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างกัน
ผู้ว่าการรัฐพิหาร ยังได้มอบ เสาพระเจ้าอโศกมหาราชจำลอง แกะสลักจากไม้ เป็นของที่ระลึกให้กับคณะธรรมยาตราครั้งที่ 4 ขณะที่เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้มอบเข็มกลัด ‘Dhamma Century’ ที่ระลึกโครงการธรรมยาตราครั้งที่ 4 ประกาศศตวรรษแห่งธรรม และองค์จำลอง ท่านชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์ประจำพระองค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ระลึก
#ธรรมยาตราครั้งที่4 #ประกาศศตวรรษแห่งธรรม
#ลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา