ขอนแก่นจับมือหนองบัวลำภู ผุดเมกกะโปรเจค สะพานข้ามเขื่อนอุบลรัตน์ช่วงภูเวียง-โนนสัง ระยะทาง 3 กม.
แก้ปัญหาการจราจร–เศรษฐกิจและการศึกษา สู่การพัฒนาร่วมกลุ่มจังหวัด “เอกราช” มั่นใจทำได้แน่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 เม.ย.2565 ที่บริเวณท่าเรือบ้านท่าลาด ต.หนองเรือ อ.โนนสังจ.หนองบัวลำภู นายนฤชิต ชาตะบุตร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท จ.หนองบัวลำภูพร้อมด้วย นายสอาด ประจันพล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวง จ.หนองบัวลำภู,นายสมยศ อุปละ ประธาน สภา อบจ.หนองบัวลำภู,นายสุพล แก้วปัญญา รองประธานสภา อบจ.หนองบัวลำภู,นายปรัชญ์ ศรีหนองโคตร เลขานุการ นายก อบจ.หนองบัวลำภู และนายสมศักดิ์ แสนอินทร์นายอำเภอโนนสัง
ร่วมให้การต้อนรับ นายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะนายกเทศมนตรี ฯ ,คณะ นายก อบต.ฯ รวมทั้งสมาชิกสภาจังหวัดในเขต จ.ขอนแก่น ในการร่วมหารือแนวทางการดำเนินการก่อสร้างสะพานและถนนเชื่อมต่อระหว่าง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น กับ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขต อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ตามแผนการดำเนินงานของรัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม ในการสำรวจความต้องการของประชาชนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่ โดยมีคณะทำงานร่วมภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาชน จากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภูเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชี รายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า โครงการสร้างสะพานและถนนเชื่อมต่อ ระหว่าง จ.ขอนแก่น กับ จ.หนองบัวลำภู เป็นความต้องการของประชาชนจากทั้ง 2 จังหวัดที่ได้ส่งเรื่องมาถึงคณะทำงานของ ส.ส.และ คณะทำงานของ กระทรวงคมนาคม ซึ่งตนเองในฐานะของ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ ซึ่งได้รับมอบหมายจากพรรค จึงลงพื้นที่ประสานงานร่วมทุกฝ่ายจนวันนี้เป็นการเริ่มต้นก้าวแรกที่สำคัญ จากความต้องการของประชาชนที่กำลังจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นตาม เนื่องจาก สะพานและถนนข้ามเขื่อนอุบลรัตน์ ในจุดดังกล่าวนี้ การก่อสร้างจากเขต จ.ขอนแก่น ที่ ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง มาถึงที่ ต.หนองเรืออ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ระยะทางประมาณ 3 กม. ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่งของทั้ง 2 จังหวัดได้อย่างเต็มที่ และลดระยะทางในการเดินทางในการเชื่อมต่อของทั้ง 2 จังหวัดได้อย่างมาก ซึ่งเมื่อสภาพการคมนาคมขนส่งสะดวกขึ้น การพัฒนาในด้านต่างๆก็จะตามมาทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าในประเภทต่างๆ รวมไปถึงด้านการศึกษา เนื่องจากปัจจุบันนักเรียนในพื้นที่ อ.ภูเวียง ที่มีเขตหมู่บ้านติดกับเขื่อนอุบลรัตน์ ต่างนั่งเรือมาเรียนที่ จ.หนองบัวลำภู เนื่องจากมีระยะทางที่ใกล้และสะดวกกว่าการเดินทางไปเรียนในตัวอำเภอ
” ขณะนี้จุดเริ่มต้นของการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอน โดยมีการหารือกันร่วมทุกฝ่าย ทั้งผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม ,ผู้แทนจากทางจังหวัด,อำเภอ,ผู้นำชุมชน,ผู้บริหารท้องถิ่น รวมไปถึง อบจ.และ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่จากนี้ไปจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการร่วมกันเพื่อให้การเดินหน้าผลักดันโครงการดังกล่าวนี้นั้นเดินหน้าต่อไปได้ ในระยะทาง 3 กม. ที่จะเป็นการสร้างสะพาน จากจุดเริ่มต้นที่ ต.หว้าทองอ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ผ่านเขื่อนอุบลรัตน์ และมีจุดกึ่งกลางที่เกาะกลางน้ำและมาสิ้นสุด ที่ บ.ท่าลาด ต.หนองเรือ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ดังนั้นขั้นตอนของการดำเนินงานทุกขั้นตอนจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง รัดกุม ตรงตามแบบที่กระทรวงคมนาคมกำหนด และต้องผ่านการรับฟังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งผมในฐานะ ส.ส.ของพรคภูมิใจไทย ขอทำหน้าที่คนกลางประสานงานร่วมทุกฝ่ายและร่วมดำเนินการโครงการดังกล่าวให้สำเร็จตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด“
นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า ด้วยแนวทางการพัฒนาประเทศ ตามที่รัฐบาล โดยเฉพาะกับกระทรวงต่างๆที่ภรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบ ทุกโครงการเน้นหนักในการเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนในระดับพื้นที่ และทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมและเดินไปพร้อมกัน พูดแล้วทำ และทำทันที ซึ่งปัจจุบันภาคอีสานมีการพัฒนาเดินหน้าแบบก้าวกระโดด ในขณะที่จีดีพีของ จ.หนองบัวลำภู จัดอยู่ในลำดับที่ 75 ของประเทศ จากจังหวัดทั้งหมดของไทย รวมกรุงเทพฯที่มีรวม 77 จังหวัด ดังนั้นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ ซึ่งโครงการสร้างสะพานและถนนเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดในจุดดังกล่าว จะเริ่มดำเนินการทันทีจากนี้ไป เพื่อให้เข้าสู่แผนงานของกระทรวงคมนาคม จนนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณ และดำเนินการก่อสร้าง ตามแผนการดำเนินงานที่คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายที่ลงพื้นที่ในวันนี้ได้กำหนดไว้