การเมือง

ว่าที่นายก ทม.บางกะดี ร้อง ตร.ไซเบอร์ เอาผิดเพจดังเอาภาพตนและภรรยามาโพสต์ได้รับความเสียก่อนมีการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ 14 พ.ค 68 นายธวัชชัยอึ้งอัมพรวิไล ว่าที่นายก เทศบาลเมืองบางกะดี ได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (ไซเบอร์) พร้อมนำหลักฐาน ไปมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผู้ที่ นำภาพไปลงใน tiktok ให้รับโทษตาม กฎหมาย

นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล กล่าวว่าวันนี้ตนได้นำหลักฐานเอกสาร มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินคดี กับพวกนักเลงคีย์บอร์ดและบุคคลที่นำภาพตนไปลงใน tiktok โดยมีใจความว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ตนได้พบเห็นผู้ใช้บัญชี tiktok ชื่อ King Kong (@King.Kong5113) ได้กระทำการนำชื่อรูปถ่ายของตนไปโพสต์ลงในช่องติ๊กต๊อกโดยมีข้อความ “นายก อู๋ นายกเทศบาลบางกะดี ใช้เงินเทศบาลพาเมียเที่ยวเมืองนอกแบบฉ่ำๆๆ สบายๆๆ ใช้เงินงบใช้เงินเทศบาลแบบมือเติบๆกันเลย รอบนี้คงไม่มีคนเลือกแน่นอน!!” ซึ่งข้อความดังกล่าวของผู้กระทำความผิดนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวนั้นส่งผลให้ตนได้รับความเสียหายในชื่อเสียงเป็นอย่างมาก วันนี้ตนจึงได้รวบรวมหลักฐานเอกสารต่าง ๆ มามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่นำภาพตนไปลงใน tiktok และในโซเชียลต่างๆ โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


นายธวัชชัย ฯ ยังกล่าวอีกว่า ตนขอชี้แจงว่าการที่ตนไปต่างประเทศนั้น คือเมื่อต้นปีที่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จัดการอบรมให้กับผู้บริหารท้องถิ่น ในหลักสูตรพัฒนาเมือง ผมจึงได้สมัครเข้าไปฝึกอบรมและในหลักสูตรนี้จะต้องไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมนี ผมก็สนใจจึงได้สมัครเข้ารับการอบรม ที่นี้ก็เลยอยากนำพาภรรยาไปด้วย เพราะภรรยาผมไม่เคยไปประเทศเยอรมนี ผมก็เลยสิบถามทางผู้จัดการหลักสูตรว่า นอกเหนือจากผู้บริหารแล้ว ให้ผู้ติดตามคนอื่นไปได้หรือไม่ เมื่อเขาแจ้งมาว่าไม่ได้ จะได้เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น โดยผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นนายก รองนายก หรือเลขา สามารถอบรมได้ ดังนั้นผมจึงแต่งตั้งภรรยาผมเป็นเลขานุการ ส่วนตัวของนายก เพราะถือว่าไม่ได้เป็นการผิดกฎระเบียบ ผมจึงได้พาภรรยาไปด้วยแต่ในการไปครั้งนี้ผมแต่งตั้งภรรยาจริงแต่ผมไม่ได้ใช้เงินของทางเทศบาล ผมใช้เงินส่วนตัว สำหรับตัวภรรยาของผมเอง นี่คือที่มาที่ไป ดังนั้นตนจึงนำหลักฐานที่ตนไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ กรณีที่มีเพจหรือติ๊กต๊อกมากล่าวหาตน โดยนำภาพลงติ๊กต๊อกต่างๆ มาโจมตีตนซึ่งเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ที่ทำให้ตนเสียหาย จึงได้ไปแจ้งความ ว่าการกระทำของคนที่นำไปลงนั้นถือว่าเป็นการโจมตีตน ผมขอยืนยันว่าผมอยู่ในสายผู้บริหารท้องถิ่นมา 26 ปีเต็ม ผมไม่เคยทุจริต ผมไม่เคยโกงแผ่นดินกิน ผมไม่เคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ผมไม่เคยถูก ส.ต.ง.ชี้มูลความผิด ผมมีแต่ได้รับ รางวัลเกียรติยศมาโดยตลอด ผมไม่เคยใช้รถหลวง ไม่เคยใช้น้ำมันหลวง เพราะฉะนั้นการที่เขาทำแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลความผิดอะไรผม เขาจึงเอาตัวนี้มาโจมตีผมซึ่งมันเป็นเท็จครับ
ผมจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังนั้นผมคิดว่ามี แต่เรายังหาตัวตนไม่ได้เพราะเขาไม่กล้า โดยใช้คลิปหรือ tiktok คิงคองนี้ทุกคนย่อมรู้และรู้ว่ามันมาจากไหน เขาไม่แน่จริงถ้าแน่จริงเขาลงชื่อมาเลย การมากล่าวหากันแบบนี้เขาเรียกว่า”คนไม่แน่จริง” เป็นเพราะผมไม่มีแผลให้เขาตีผมไม่เคยทุจริต และในชีวิตผมไม่เคยทำธุรกิจสีเทา ไม่เคยรับส่วยใคร ไม่เคยรับเงินส่วย ไม่เคยทำธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นหวย บ่อน โต๊ะพนันบอลใด ๆ ทั้งสิ้น แม้เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยว ผมกับน้องชายผม (ส.ส.สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล) หรือ สส.ฮะ คนปทุมรู้ดีว่าผม 2 คนสีขาวครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า