นายกฯ’ เผยรัฐบาลให้ความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือและความปลอดภัยของคนไทยในอิสราเอล
เผยมีแรงงานไทยกว่า 1,000 คน ต้องการกลับบ้าน สั่ง ทอ.-กต.ดำเนินการด่วนประกาศไทยเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย อยากเห็นการยุติความรุนแรงรวมทั้งสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทวีตข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ส่วนตัว ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอล ซึ่งเผชิญภัยสู้รบในตะวันออกกลาง
นายกฯระบุว่า ผมขอย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้ความช่วยเหลือและความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยที่อยู่ในอิสราเอล โดยผมได้รับทราบว่าขณะนี้มีแรงงานชาวไทยในอิสราเอลจำนวนพันกว่าคนที่แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย ซึ่งผมได้สั่งการให้ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพอากาศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเต็มที่โดยเร็ว
ในการนี้การอพยพจะเริ่มดำเนินการในทันที โดยทางสถานทูตไทยได้รายงานว่าจะจัดส่งคนไทยชุดแรก 15 คน ซึ่งบางรายเป็นผู้บาดเจ็บ โดยสายการบินพาณิชย์กลับถึงประเทศไทยในวันที่ 12 ต.ค.นี้ และจะทยอยส่งกลับเป็นชุดๆ โดยมีคนไทย จำนวน 76 ราย ที่ทางการอิสราเอลช่วยนำออกมาจากพื้นที่สู้รบ ตลอดจนจำนวนที่เหลือทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายได้ประสานความพร้อมในการส่งเครื่องบินของทัพอากาศไปรับ หรือโดยเที่ยวบินพาณิชย์ รวมทั้งการเช่าเหมาลำตามความเหมาะสมของสถานการณ์
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทยที่เกี่ยวข้องให้ติดต่อกับมิตรประเทศเพื่อช่วยประสานในการปล่อยตัวคนไทยที่จับกุมอีกทางด้วยแล้ว
ทั้งหมดนี้ทางการไทยให้ความสำคัญยิ่งกับความปลอดภัยของคนไทย ทั้งนี้ ไทยเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย และปรารถนาที่จะเห็นการยุติความรุนแรง รวมทั้งสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติโดยเร็วครับ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าตรวจความพร้อมการเตรียมอากาศยาน กำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ในการเข้าช่วยเหลือคนไทยจากสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล
กองทัพอากาศ (ทอ.) ได้จัดเตรียมเครื่องบิน 6 ลำ ประกอบด้วย A340 1 ลำ และ C130 5 ลำ พร้อมเดินทางได้ทันทีที่น่านฟ้าเปิด แต่ตอนนี้รอข้อมูลก่อน โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รวบรวมรายชื่อของคนไทยทุกคนที่อยู่ในอิสราเอล ซึ่งตอนนี้ มีผู้ประสงค์เดินทางกลับไทย 1,099 คน.
อ่านรายละเอียด ทางนี้ https://bbc.in/46m0UNk
