จีนศึกษา๒๓ มหานครฉงชิ่ง
บทบาทของมหานครฉงชิ่งในการเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีน สำหรับการพัฒนาภูมิภาคตะวันตกและเป็นจุดเชื่อมต่อของ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี (重庆是西部大开发的重要战略支点,处在“一带一路”和长江经济带联结点上。) อันเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมสัมมนาว่าด้วยการพัฒนาแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี(长江经济带) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. มหานครฉงชิ่ง ได้ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุภารกิจซึ่งได้รับการมอบหมายให้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาของแม่น้ำแยงซี โดยนำแนวคิดการพัฒนาใหม่ เพื่อปกป้องระบบนิเวศและการพัฒนาสีเขียวอย่างไม่ย่อท้อ และสร้างกำแพงกั้นระบบนิเวศที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพในตอนบนของแม่น้ำแยงซี และยึดมั่นตามแนวความคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับอารยธรรมระบบนิเวศ
๒. บทบาทของมหานครฉงชิ่งในการปกป้องและฟื้นฟูระบบสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศตลอดจนการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวิธีดำเนินการ ได้แก่
๒.๑ การปรับปรุงกลไกการส่งเสริมการทำงาน ใช้ระบบหัวหน้าแม่น้ำและระบบหัวหน้าป่าไม้อย่างเต็มที่ สร้างระบบหัวหน้าแม่น้ำ ๔ ระดับในระดับเมือง อำเภอ เขตถนนและระดับหมู่บ้านใช้ความรับผิดชอบด้านการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมกับหัวหน้าเฉพาะ และส่งเสริมการทำให้เป็นมาตรฐานรวมทั้งผลในระยะยาวของการจัดการน้ำและป่าไม้ รวบรวมประเด็นการทำงานประจำปีและแผนการแก้ไขอย่างเป็นเรื่องเป็นราวสำหรับการเปิดรับฟิล์มเตือนสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี กำหนดและดำเนินการตามแผนงานปรับปรุงคุณภาพสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยา ตลอดจนดำเนินโครงการและรายการงานที่เกี่ยวข้อง
๒.๒ การใช้ระบบการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดที่สุด ควบคุมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอย่างเคร่งครัดและลดผลกระทบของการผลิตและชีวิตที่มีต่อระบบนิเวศชายฝั่งดำเนินการอย่างจริงจังในการห้ามและถอยกลับการจับปลาในลุ่มแม่น้ำแยงซี ดำเนินการพิเศษเพื่อต่อต้านการจับปลาที่ผิดกฎหมายและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทางน้ำในแม่น้ำแยงซี ปรับปรุงกลไกการเข้าถึงการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมและดำเนินการตามรายการห้ามการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด เสริมสร้างการจัดการที่เข้มงวดของพื้นที่สงวนธรรมชาติและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบนิเวศและคุณค่าทางนิเวศวิทยาอย่างครอบคลุม
๒.๓ การเสริมสร้างนวัตกรรมของระบบและกลไกการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เร่งปรับปรุงระบบการชดเชยความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาและการซื้อขายตั๋วป่ารวมทั้งเพิ่มการชดเชยระบบนิเวศแนวราบสำหรับพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของฉงชิ่ง ในปัจจุบันกลไกการชดเชยแนวนอนสำหรับเขตต้นน้ำและปลายน้ำและมณฑลที่อยู่ในเขตอำนาจศาลได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ เสริมสร้างการประสานงานและการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค จัดตั้งกลไกการชดเชยการคุ้มครองระบบนิเวศแนวนอนเสฉวน – ฉงชิ่ง ตลอดจนกลไกการป้องกันและควบคุมขยะอันตรายยูนนาน – กุ้ยโจว เสฉวน – ฉงชิ่ง เพื่อสร้างกลไกการกำกับดูแลการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เป็นหนึ่งเดียว
๓. บทบาทของมหานครฉงชิ่งในการส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มหานครฉงชิ่งยืนยันที่จะใช้นวัตกรรมอัจฉริยะข้อมูลขนาดใหญ่เป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและได้เปิดตัวมาตรการเชิงกลยุทธ์หลายชุดเมื่อต้นปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) มีการเสนออย่างชัดเจนให้ใช้แผนปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างจริงจัง ซึ่งนำโดยการสร้างข้อมูลขนาดใหญ่อย่างชาญฉลาดและมุ่งมั่นที่ได้สร้าง“เมืองอัจฉริยะ” (“智慧名城”) ในเดือนมิถุนายน ปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) รวมทั้งการประชุมส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อปรับใช้นวัตกรรมและงานพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองอย่างเป็นระบบ ทำให้มูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองฉงชิ่งในปี ๒๐๒๐ เพิ่มขึ้นมากกว่า๑๗% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งคิดเป็นมากกว่า ๒๕% ของ GDP ของเมือง ซึ่งกลายเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญสำหรับการพัฒนาคุณภาพสูงของมหานครฉงชิ่ง
๔. บทบาทของมหานครฉงชิ่งในการสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” โดยการสร้างวงกลมเศรษฐกิจสองเมืองเฉิงตู – ฉงชิ่ง โดยเฉพาะการสร้างศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ อาทิ เส้นทางรถไฟสายหลักเลียบแม่น้ำแยงซีไปทางทิศตะวันออก การเปิดรถไฟจีน – ยุโรป ไปทางตะวันตก รวมทั้งเร่งสร้างช่องทางบก – ทะเลใหม่ทางตะวันตกไปทางใต้ การพัฒนารถไฟระหว่างประเทศ “ฉงชิ่ง – แมนจูเรีย – รัสเซีย” ไปทางเหนือ และพัฒนาเส้นทางการบินระหว่างประเทศ เป็นต้น
บทสรุป มหานครฉงชิ่ง ซึ่งได้ดำเนินการตามคำแนะนำและข้อกำหนดที่สำคัญของเลขาธิการพรรคฯ สี จิ้นผิง อย่างเต็มที่ รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสนับสนุนในการส่งเสริมการพัฒนาภาคตะวันตกในยุคใหม่ และมีบทบาทนำในการส่งเสริมการสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (“一带一路”/สายแถบและเส้นทาง Belt and Road Initiative: BRI) ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาสีเขียวของแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี เพื่อเป็นแบบอย่างในการพัฒนา จากการวางตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ของแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีที่ประกอบด้วย ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) การพึ่งพาการรวมตัวของเมืองในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี การรวมตัวของเมืองที่อยู่ตรงกลางของแม่น้ำแยงซีและการรวมตัวกันของนครเฉิงตู–มหานครฉงชิ่ง (๒) การขยายศูนย์การขนส่ง ๓ แห่งของมหานครเซี่ยงไฮ้ มหานครฉงชิ่งและนครอู่ฮั่น (๓) การส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ห่างไกลตอนบนของแม่น้ำแยงซีตอนกลาง และ (๔) การส่งเสริมการพัฒนาและการเปิด “สองจุดจบ” คือมหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน – ปากีสถาน และระเบียงเศรษฐกิจจีน – อินเดีย – เมียนมา จึงทำให้เห็นได้ว่า มหานครฉงชิ่งสามารถครองตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ระดับที่สูงมากในแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://news.gmw.cn/2021-01/05/content_34517897.htm และเว็บไซต์ http://www.cq.gov.cn/zqfz/gmjj/202001/t20200114_4640351.html รวมทั้งเว็บไซต์ http://district.ce.cn/newarea/roll/201506/01/t20150601_5514222.shtml )