สคบ.จะออกกฎหมายคุมโฆษณา เครื่องราง ของขลัง ทำไดัจริงหรือ
ผมเห็นข่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะออกกฏหมายคุมโฆษณา เครื่องราง ของขลัง โดยอ้างว่าโฆษณาเกินจริง อ้างสรรพคุณที่ยากต่อการพิสูจน์
ถ้า สคบ.ทำได้ ก็น่าอนุโมทนา เพราะคนไทยชอบเครื่องราง ขิงขลัง ใครโฆษณาตรงกับกิเลส รับได้ทันที โดยไม่ใช้คติว่า ศรัทธา ต้องมากับปัญญา มิเช่นนั้นกลายเป็นเรื่องงมงาย
ส่วนการโฆษณา นั้น คือการทำงานของสื่อแบบหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาให้ตรงกับกิเลสของคน คือ โลภ โกรธ และหลง (โลภะ โทสะ โมหะ)
และการโฆษณา เครื่องราง ของขลัง ก็เน้นในวังวนกิเลส ทั้ง 3 นั้นตราบใดที่คน ไม่มีปัญญา ก็ต้องตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป
ทำอย่างไรจึงจะมีปัญญา รู้เท่าทันได้
ท่านแนะว่าต้องศึกษาใน มรรค 8 ดังที่ พระอานนท์ ตอบฉันนะปริพพาชก ที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 20 หน้า 277 นั้น
มรรค 8 คือ สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ซึ่งสามารถกำจัดกิเลส ทั้ง 3 นั้นได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ สคบ.ต้องคิดหนักว่าจะคุมได้หรือ
หรือ มีวิธีอื่นเช่น ก่อนโฆษณา ต้องได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ดี ข่าว สคบ.
ออกมาตรงกับกระแสสังคมที่กำลังหลงไปบูชาอสูร ตนหนึ่ง ที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ
สคบ.คงทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ ต้องอาศัยสื่อมวลชน
ขอให้ท่านถามตัวเอง ว่า ทำตามหน้าที่หรือไม่ ที่ว่า สื่อมีหน้าที่ให้ความรู้แก่ประชาชน
เพราะมีแต่ข่าวช่วยสร้างกระแส ให้คนงมงายในอสูร
ถ้าสื่อ ต้องการเรตติ้ง จนลืมให้ความรู้แก่ประชาชน สังคมไทย เห็นทีจะอ่อนแอ
ขอใหใช้โยนิโสมนสิการ ทบทวนบ้างก็ดี นึกว่า ร่วมด้วย ช่วยกัน เพราะปัจจุบันวัดพุทธศาสนา เกือบพึ่งไม่ค่อยได้
ที่เห็นยังให้ความสำคัญเทพที่ไม่ใช่พุทธ เช่นช่วยสร้างกระแสให้คน บูชาท้าวเวสสุวรรณ ทั้งๆ ที่ท้าวเวสสุวรรณนั้น คือ 1 ใน 4 ท้าวจาตุมหาราช ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูอุโบสถ
เรื่องที่ผมอยากเห็น คือขอให้สื่อมวลชน พูดถึงอสูร ตนนี้ ให้น้อยลง หันมาให้ความรู้แก่ประชาชนวันละนิดก็ยังดี เพราะปัจจุบันอสูรครองพื้นที่สื่อไปส่วนหนึ่ง
อย่าให้สังคม อยู่ใความมืดมากกว่านี้เลยครับ
สมาน สุดโต