กองทัพไทยแถลงข่าวการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. พลเอกณตฐพล บุญงาม เสนาธิการทหาร ร่วมกับนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นประธานในการแถลงข่าวการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ห้องรับรอง 11 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
การฝึกคอบร้าโกลด์เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด–แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี
การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ในปีนี้เป็นครั้งที่ 41 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วยไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซียสาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย
ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ จีนอินเดีย และออสเตรเลีย ประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติหรือ MPAT (Multinational Planning Augmentation Team) จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บังคลาเทศ ฝรั่งเศส อังกฤษ มองโกเลีย เนปาลนิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 20 ประเทศ ยอดผู้เข้าร่วมการฝึกจำนวน 3,460 นาย
ประกอบด้วยไทย 1,953 นาย สหรัฐอเมริกา 1,296 นาย สิงคโปร์ 50 นาย อินโดนีเซีย 16 นาย ญี่ปุ่น 35 นายสาธารณรัฐเกาหลี 41 นาย มาเลเซีย 36 นาย จีน 10 นาย อินเดีย 5 นาย และออสเตรเลีย 18 นาย
วัตถุประสงค์การฝึก เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกและเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธร่วมและผสมโดยการประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤตต่างๆ อีกทั้งเพื่อฝึกการใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติ
รูปแบบการฝึก ในปีนี้ประกอบด้วยการฝึกหลัก ดังนี้
1.การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command post Exercise : CPX) ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ถึง 5 มีนาคม 2565 โดยกองบัญชาการกองทัพไทยจัดตั้งกองบัญชาการกองกำลังผสมนานาชาติร่วมกับกองทัพสหรัฐอเมริกา และมิตร ประเทศ ณ อาคารม้าแดง กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอบ้านฉางจังหวัดระยอง
2 .โครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian/Civic Assistance:HCA) ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 3 มีนาคม 2565 จำนวน 5 โครงการก่อสร้าง ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านทุ่งนุ้ยจังหวัดกระบี่ โรงเรียนบ้านหนองมะค่า จังหวัดสระบุรี โรงเรียนวัดคลองตะเคียน จังหวัดจันทบุรีโรงเรียนหนองบอนวิทยาคม จังหวัดตราด และโรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง
3.การฝึกแก้ปัญหาบนโต๊ะในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ(Humanitarian Assistance and Disaster Relief Table Top Exercise:HIDR-TTX) ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ โรงแรมสิรินพลาอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
4. การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise:FTX) ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2565 โดยเหล่าทัพรับผิดชอบการฝึก ในรูปแบบการฝึกแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และอ่าวไทยตอนบน
ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปีนี้ได้มีการปรับลดกำลังพลจาก 8,964 นาย เหลือ 3,460 นาย และปรับรูปแบบการฝึกภาคสนามโดยงดการฝึกร่วมขนาดใหญ่ของทั้ง 3 เหล่าทัพได้แก่ การฝึกยกพลขึ้นบก การฝึกอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่การรบ และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง และคงการฝึกผสมในระดับยุทธวิธีของทั้ง 3 เหล่าทัพ ในลักษณะการฝึกแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระดับไม่เกิน 1 กองร้อย โดยไม่เกิน 500 นายในแต่ละพื้นที่การฝึก เพื่อให้สอดรับกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดต่างๆ โดยกองทัพไทยกำหนดให้ใช้มาตรการ Bubble and Seal เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกและพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบการฝึก ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับการฝึกในพื้นที่ผ่านมา และนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เพราะผู้เข้าร่วมการฝึก ไม่มีการติดเชื้อ COVID-19 เนื่องจากกองทัพไทยได้กำหนดมาตรการ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคก่อน ระหว่างและหลัง การฝึกอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ในการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 แบ่งมาตรการเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ก่อนเข้าประเทศ ผู้เข้ารับการฝึกจากมิตรประเทศต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขอเข้าประเทศ Thailand Pass ตรวจสอบเอกสารขณะเข้าประเทศ (immigration)ไปจนถึงการเข้ารับการกักตัว 7 วัน ตามที่ได้ทำการจองที่พักไว้
ระหว่างอยู่ในประเทศแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงการกักตัว (ASQ) และห้วงการฝึก ห้วงการกักตัวผู้เข้ารับการฝึกทั้งฝ่ายไทยและมิตรประเทศต้องกักตัว 7 วันและตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งสำหรับห้วงการฝึกใช้มาตรการ Bubble and seal ในทุกพื้นที่การฝึกโดยจะคัดกรองผู้เข้าร่วมการฝึกทุกวัน และกำหนดให้มีการตรวจ ATK ทุกๆ 5 วัน
หลังจบการฝึกจะติดตามรายงานผลการตรวจ COVID -19 หลังจากที่เดินทางเข้าประเทศตนเองเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้รับเชื้อจากประเทศไทย
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 แบ่งเป็น 3 ระดับประกอบด้วย ระดับประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติ ในการเตรียมความพร้อมด้านการทหาร ที่มีความเข้มแข็งทันสมัย และสามารถตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ เช่นการรักษาสันติภาพการบรรเทาสาธารณภัยต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในระดับกองทัพเป็นการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารในการปฏิบัติงานร่วมกัน ระหว่างกองทัพไทยกองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพจากมิตรประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพไทยในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะด้านการบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาคเพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืนและในระดับพื้นที่ที่เข้าทำการฝึก ได้รับประโยชน์จากการฝึก ในส่วนโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในสายตาของมิตรประเทศและประชาคมโลกต่อไป