ศาสนา-ศิลปวัฒนธรรม

มจร.ถวายดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พระเทพมงคลวชิโรภาส อายุ 103 ปี เจ้าอาวาสวัดภคินีนาถ

พระเทพวัชรสารบัณฑิต รองอธิการบดี และเลขานุการสภา มจร. แถลงว่าเมื่อ 24 กันนายน 2568 ว่าสภามหาวิทยาลัยมีมติถวายปริญญากิตติมศักดิ์ กับผู้ที่ทำคุณแก่พระพุทธศาสนาและสนองงานคณะสงฆ์มาตลอด
โดยปีนี้มีมติถวายให้พระเถระหลายรูปเช่นพระเทพมงคลวัชโรภาส อายุ 103 เจ้าอาวาสวัดภคินีนาถเป็นต้น

จะเข้ารับปริญญากิตติมศักดิ์ 6-7ธันวาคม 2568
พร้อมด้วยพระเถระและคฤหัสถ์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายรูปกลายท่าน

การที่พระเทพมงคลวโรภาสได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ ดุษฎีบัณฑิตครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งแรก เมื่อมหาเถรสมาคม มีมติให้ พระครูนนทสารวิสิทธิ์ (พระเทพมงคลวัชโรภาส ) อายุ 86 ปี เจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดภคินีนาถ พระอารามหลวง กทม.เมื่อ ปี 2551 เป็นการแต่งตั้งที่สร้างความอัศจรรย์แก่พระครูนนทสารวิสิทธิ์และพระสงฆ์ทั่วไปอย่างมาก โดยเฉพาะหลวงพ่อพระครูนนทสารวิสิทธิ์ถึงกับลั่นวาจาว่าเหมือนฝัน

ความอัศจรรย์ครั้งที่ 2 คือได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ จาก มจร.ในวัย103 ปีใน พ.ศ.2568

ท่านยังมีเรื่องจดจำเรียกว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ได้
เมื่อปี 2540 พระครูนนทสารวิสิทธิ์ หรือพระพระเทพมงคลวัชโรภาส อายุ 70 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด และเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด ได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา มีผู้ร่วมคณะ 14 ชีวิตเป็นพระ 12 รูป ฆราวาส 2 คน
กะว่าไปเพียง 15 วันจะกลับ เมื่อเหลือเวลาอีก 2 วันได้เดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง
ระหว่างทางแวะเติมน้ำมันและเปลี่ยนคนขับ
รถที่เมืองเพรสโน แคลิฟอร์เนีย รถออกจากปั้มมาสักครู่เกิดพลิกคว่ำ ทำให้ผู้เสียชีวิต7 ราย เป็นพระ 6 รูป ฆราวาส 1คน ส่วนหลวงปู่รอด เป็นอุบัติเหตุที่ฝังใจถึงขณะนี้
100 ปีพบแต่อัศจรรย์
ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามว่า อายุ 100 ปี มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หลวงปู่ ซึ่งอยู่กุฏิฝากระดานหลังคามุงกระเบื้อง ทรงไทยยอดแหลม ด้านหน้าเป็นนอกชานแบบเรือนโบราณ
เป็นกุฏิที่เคยอยู่สมัยเป็นสามเณร
ท่านเล่าว่าความจำเหมือนคนมีอายุ 90 ปี ไม่หลงไม่ลืม ถึงวันพระใหญ่ลงฟังพระปาฏิโมกข์ไม่เคยขาด
ที่แปลกใจ มีผู้คนขอถ่ายรูปคู่เสมอเมื่อทราบว่าอายุ 100 ปี
ส่วนกิจนิมนต์ นอกวัดถือว่าเป็นงานที่ต้องไปเพราะทำให้ได้พบสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ
ส่วนความแข็งแรงสามารถเดินขึ้นที่สูงได้ เคยมีเจ้าของร้านค้าหน้าวัดนิมนต์สวดมนต์ที่บ้าน ท่านก็ไปแต่ต้องขึ้นบันไดไปชั้นที่ 4 ที่เขาจัดสถานที่สวดมนต์ไว้
วันหนึ่งอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุฯ เห็นท่านเดินปกติแม้จะสูงวัย จึงเอ่ยปากว่าอายุขนาดนี้ยังแข็งแรง จึงตั้งให้เป็นที่ปรึกษา เจ้าคณะ กทม.

ส่วนประวัติย่อมีว่า
พระเทพมงคลวัชโรภาส มีนามเดิมว่า วิสิทธิ์ นามสกุล ขวัญเมือง ฉายา นนฺทิโย เกิดวันที่ 21 ตุลาคม 2465 ที่ตำบล อ้อมเกร็ดอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนทบุรี
พศ.2477 เป็นเด็กวัดภคินีนาถ
ต่อมาบรรพชา อุปสมบท เล่าเรียนปริยัติธรรมและบาลีจนสอบได้นธ.เอกและเปรียญธรรม 5 ประโยค พศ.2500

ที่ต้องจารึกไว้คือท่านเป็นศิษย์เรียนแปลบาลี ปธ.3 กับอาจารย์ นอ.แย้มประพัฒน์ทอง นักปราชญ์ภาษาบาลีชื่อดังของไทยด้วย

เมื่อเรียนบาลีได้พอสมควร เคยเป็นคณะทำงานช่วยพระธรรมคุณาภรณ์ (ฟื้น) ต่อมาเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยาที่จัดอบรมพระสงฆ์ในวิชาการต่างๆ เช่นอบรมครู ที่นี่ท่านมีผลงานดีจึงได้รับแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการอำเภอปากเกร็ด (แต่ตัวอยู่วัดภคินีนาถ)
ปี พศ. 2502 จึงถูกขอตัวไปช่วยงานวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ปากเกร็ด และดูแลหลวงพ่อพระนันทวิริยาจารย์ (กุหลาบ)เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอที่ป่วยด้วยโรคขั้วปอดอักเสบ ซึ่งหมอว่าจะมีอายุอยู่ อีก
6 เดือน แต่พระมหาวิสิทธิ์ดูแลดี จึงมีอายุยาวมาถึง 18 ปี จึงมรณภาพ

อยู่วัดสว่างอารมณ์ 5 พรรษาได้รับแต่งตั้งจากเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ดให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ดที่ทรุดโทรมมาก
แต่ด้วยความสามารถของท่านวัดกลางเกร็ดกลายเป็นวัดสวยงาม วัดหนึ่งของจังหวัดนนทบุรีในปัจจุบัน
อยู่วัดกลางเกร็ดรวม45 ปี
ความอัศจรรย์ในชีวิตก็เกิดเมื่อมหาเถรสมาคม ตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดภคินีนาถพระอารามหลวงในปพศ.2551 และดำรง
อยู่ถึงทุกวันนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เป็นวันอายวัฒนมงคล 103 ปี คณะศิษย์ได้จัดงานถวายเป็นการภายในที่วัดภคินีนาถ
ขอทุกท่านจงร่วมอนุโมทนา และมุทิตาในวันมหามงคลของพระเทพมงคลวัชโรภาส เทอญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า