ประชุมเตรียมจัดงานธรรมยาตราครั้งที่ 4
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 สค.2567
ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธารา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดประชุมสามัญประจำปี โดยมี
พระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจเาคณะภาค ๑๑
เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร
พระอุปติสสะ มหาเถโร ประธานสมาคมมหาโพธิ์ ศรีลังกา และประธานพุทธวิหารสาญจีอินเดีย … อ่านข่าวต้นฉบับ
พระเมธีวรญาณ (สายเพชร วชิรเวที ป.ธ.๙, ผศ.ดร.) รองเจ้าคณะภาค ๑๐
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณบดีคณะพุทธศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะกรรมการบริหาร
ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธานสถาบันโพธิคยาฯ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980
นอกจากนี้มีผู้ร่วมประชุมอาทินายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการฯ นาย สุรพล มณีพงษ์อดีตเอกอัครราชทูตประจำ กต.
นายสุภชัย กล่าวว่าเป็นการประขุมประจำปีครั้งที่ 3 หลังจากที่เราจัดงานธรรมยาตราครั้งที่ 3 วันนี้ประชุมหารือจังานธรรมยาตราครั้งที่ 4 โดยรองเลขาธิการฯท่านมาริษ มีหมวกอีกใบคือเป็น รมต.ว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่ประชุมมีมติว่าก้าวต่อไปจะเน้นเรื่องการทำงานกับรัฐบาลอินเดีย หรือกระทรวงวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย ซึ่งจากความสำเร็จในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาประเทศไทยกลายเป็นความสำเร็จ ที่รัฐบาลอินเดียรู็สึกแปลกใจมากที่เห็นชาวพุทธมากราบพระบรมสารีริกธาตุเป็นจำนวนมาก เกือบ 5 ล้านคนซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากนี้ได้รับความเมตตาจากพระอุปติสสะ มหาเถโร นำพระบรมสารีริกธาตุมาประเทศไทย
ซึ่งทางสถาบันฯจะประสารความสำพันธ์เชิงลึกต่อไป และจะต่อยอดไปอีกหลายประเทศไปยเวประเทศเนปาล ศรีลังกา
นายสุภชัย กล่าวต่ออีกว่าที่สำคัญที่สุดครั้งต่อไปก็คือการจัดธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 แม่น้ำโขงสู่แยงซีเกียง โดยใช้สัญญาลักษณ์ของแม่น้ำซึ่งแม่น้ำเปรียบเสมือนสายเลือดล่อเลื้ยง ก็เปรียบเสมือนธรรมะในการล่อเลี้ยงพวกเราเพราะชีวิตพวกเราต้องมีธรรม ถ้าไม่มีธรรมก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต
