องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเวียตนามใหม่ หลัง เงียบหายไปนาน 49 ปี
องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคณะสงฆ์ และชาวพุทธเวียตนาม เมื่อวันที่ 3-5 สิงหาคม 2566 หลังจากขาดการติดต่อกันมานาน 49 ปี นับตั้งแต่เวียตนาม ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม คอมมูนิสต์ เมื่อ พ.ศ. 2519
การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ใหม่ ก่อให้เกิดความปีติยินดี ทั้งฝ่าย พ.ส.ล.และองค์กรชาวพุทธเวียตนาม
กล่าวคือ พ.ส.ล. ยุคใหม่นำโดยคุณพัลลภ ไทยอารี ซึ่งรับตำแหน่งประธาน เมื่อ 19 ตุลาคม 2565 มีความประสงค์จะให้สมาชิกเดิมๆ ที่ขาดการติดต่อมานาน กลับมามีบทบาทเหมือนเดิม
ในขณะที่คณะสงฆ์และชาวพุทธเวียตนาม ก็มีความต้องการกลับมาทำงานภายใต้ร่มเงาแห่ง พ.ส.ล.ตามที่เคยเป็นมาในอดีตเช่นกัน
เมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันจะทำให้การส่งเสริมพระพุทธศาสนามีความเข้มแข็ง ตามเจตนารมณ์ของการสถาปนา พ.ส.ล.เมื่อ 73 ปีที่ผ่านมาว่าจะไม่ให้นิกายมาเป็นอุปสรรคในการเผยแผ่พุทธธรรม แก่ชาวโลก
พัลลภ ไทยอารี ประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล ) และ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพุทธโลก (ม.พ.ล.) กับคณะ ผู้บริหาร และที่ปรึกษา พ.ส.ล. เดินทางสู่นครโฮจิมินห์ ตามคำเชิญ อย่างเป็นทางการ ของสภาบริหารคณะสงฆ์ชาวพุทธ เวียตนาม (Vietnam Buddhist Sangha Executive Council) (VBS) ระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ในระหว่างการเยี่ยมเยือนอย่างเป็นทางการ นี้ องค์การ พ.ส.ล. ถือว่าเป็นโอกาศที่เป็นมงคลยิ่ง จึงทูนถวาย ตำแหน่ง องค์ผู้อุปถัมภ์ ฝ่ายสงฆ์ (Sangha Patron of WFB) แด่เจ้าพระคุณ ทิช ตรี กวาง สมเด็จพระสังฆราช แห่ง เวียตนาม
และ ถวายตำแหน่ง โอวาทจริยาจารย์ (Religious Advisor of WFB) แด่เจ้าพระคุณดร. ทิช เที่ยน เยี่ยน ประธานสภาผู้บริหารคณะสงฆ์เวียตนาม (VBS) เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ท่านอาจารย์ ดร. ทิช นัท ทู สมาชิกถาวร แห่ง คณะสงฆ์ชาวพุทธ เวียตนาม แห่งชาติ(National Vietnam Buddhist Sangha) ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน ได้กล่าวว่า พระมหาเถระทั้ง 2 ที่ พ.ส.ล ถวายตำแหน่งเชิดชูเกียรติ รู้สึกยินดี และอนุโมทนา โดยเฉพาะสมเด็จพระสังฆราช ทิช ตรี กวาง นั้น ท่านรู้จัก พ.ส.ล. มาตั้งแต่ท่าน ยังเป็นสงฆ์บวชใหม่จึงมีความประทับใจที่ พ.ส.ล. ถวายตำแหน่งผู้อุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ให้
ในขณะที่เจ้าพระคุณ ดร. ทิช เทียน เยี่ยน นอกจากแสดงความปีติในตำแหน่ง โอวาทจริยาจารย์ แล้ว ยังยินดีที่จะได้ให้ความร่มมือกับ พ.ส.ล.ในการสร้างความเข้มแข็งแก่พุทธศาสนาต่อไป
ในความเห็นของท่าน ดร.ทิช นัท ทู ผู้ประสานงานและทำหน้าที่เป็นล่าม บอกว่า การพบปะอย่างสร้างสรรค์ ระหว่าง พ.ส ล.กับคณะสงฆ์เวียตนาม จะนำมาซึ่งความเข้มแข็งให้แก่พุทธศาสนา ในเวียตนาม
ปัจจุบัน เวียตนามพุทธ มีการติดต่อ ปฏิสัมพันธ์กับองค์กรชาวพุทธทั่วโลก
“อาตมาคิดว่านับแต่นี้เป็นต้นไป การติดต่อประสานงาน ระหว่างองค์กรพุทธเวียตนามกับ พ.ส.ล.จะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง“
เวียตนาม มีชาวพุทธหลายนิกาย แต่อยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี นอกจากมหายานที่เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีเถรวาท ที่สืบทอดมาจาก เถรวาทกัมพูชา และศรีลังกาด้วย
ตัวเลขวัดมหายาน อย่างเป็นทางการ มีจำนวน 18,544 วัดและที่ไม่เป็นทางการ (คือภาครัฐยังไม่ได้รับรอง) อีก 6,000 วัดและวัดฝ่ายเถรวาท มีจำนวน 476 วัด
ส่วนจำนวนชาวพุทธนั้น มีประมาณ 70% ของประชากรประมาณ 100 ล้านคน
นอกจากวัดดังกล่าว เวียตนาม ยังมีมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา เช่นใน ฮานอย เมืองเว้ และโฮจิมินห์ ซิตี้
มหาวิทยาลัยพุทธ ดังกล่าวสมัครเป็นภาคีสมาชิก พ.ส.ล. และต้องการทำงานด้านวิชาการร่วมกับมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแห่งโลก ( ม.พ.ล.)
ถ้ามหาวิทยาลัยพุทธเวียตนาม มาอยู่ใต้ร่มเงา พ.ส.ล. จะเป็นการสร้างแหล่งพุทธปัญญา วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ด้านต่างๆ ได้ กว้างขวางยิ่งขึ้น
มหาวิทยาลัยพุทธศาสนาที่คณะ พ.ส.ล.ไปเยี่ยม มีนักศึกษาเป็นพระและแม่ชี 1,000 กว่ารูป/คน
ท่านอารย์ ดร.ทิข นัท ทู สรุปจากการไปเยี่ยม ของ พ.ส.ล.ด้วยวาทะที่ควรจดจำว่า “เป็นเรื่องอัศจรรย์ และเป็นยุคใหม่ แห่งพุทธศาสนาในเวียตนาม“
หลังจาก ถวายตำแหน่งสำคัญแด่พระมหาเถระแล้ว คณะ พ.ส.ล.ได้เข้าเยี่ยมวัดมหายาน และวัดเถรวาท ตลอดถึงมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งถวายสักการะประธานสงฆ์ที่คณะไปเยี่ยม อีก 5 วัด และหนึ่งมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา
คุณพัลลภ ไทยอารี ให้ความเห็นว่าการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคณะสงฆ์เวียตนามประสบความสำเร็จเกินคาด
เช่น เวียตนามเห็นคุณค่าในการเป็นสมาชิก ก่อตั้ง
จึงยินดีมาก ที่คณะ พ.ส.ล.จากสำนักงานใหญ่ มาเป็นคณะใหญ่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากเขามีความภาคภูมิใจกับการเป็นสมาชิกก่อตั้ง พ.ส.ล.มาแต่ต้น
ทุกวันนี้ ทุกคนทุกฝ่าย คือ คณะสงฆ์ และมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา พร้อมทำงานร่วมกับเรา (พ.ส.ล.)
ในอนาคตมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา และ ม.พ.ล.จะลงนาม MOU เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
ความประทับใจอีกเรื่องหนึ่งจากการเดินทางมาครั้งนี้เมื่อทราบว่าคณะสงฆ์ของเวียตนาม แม้จะมีนิกายแตกต่างกัน แต่เขาร่วมมือภายในกันดี และส่งผลความร่วมมือนั้นมาถึง พ.ส.ล. และศูนย์ภาคี ด้วย
ท่านพัลลภ กล่าวว่าที่น่าสนใจมากคือ วัดเวียตนาม มีความสามารถในการตั้งสาขาในหลายประเทศ เช่นในสหรัฐอเมริกา สปป. ลาว และกัมพูชา เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศที่พ.ส.ล.มีความประสงค์จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี กับสาขาที่อยู่ในประเทศนั้นๆ เหมือนกัน
สำหรับประเทศกัมพูชา นั้น พ.ส.ล.ได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ กับรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่1-3 พฤษภาคม 2566 ที่กรุงพนมเปญไปแล้ว
ครั้งนั้นได้ลงนามใน MOU ในการที่รัฐบาลกัมพูชามีความประสงค์ขอเป็นเจ้าภาพประชุมใหญ่ประจำปี พ.ส.ล. ใน พ.ศ. 2567 ด้วย
ส่วนประเทศ สปป ลาว นั้นการติดต่อประสานงานมีความคืบหน้าด้วยดี แต่ยังไม่ได้กำหนดวันไปเยือน
ประเทศพุทธศาสนา ที่ พ.ส.ล.จะไปสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ได้แก่เมียนมาร์และ ภูฏาน เพราะเคยมีบทบาทสำคัญ ต่อ พ.ส.ล.มาก่อน
คุณพัลลภ พูดถึงเรื่องเยาวชน ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต คาดว่าจะมีความร่วมมือกัน ระหว่างเยาวชนเวียตนาม กับ ย.พ.ส.ล. ซึ่งเป็นองค์กรเยาวชน ของ พ.ส.ล.อีกองค์กรหนึ่ง
อย่างไรก็ตามในการไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ส.ล. กับคณะสงฆ์เวียตนาม นั้นพ.ส.ลได้รับความเมตตาจาก
คณะสงฆ์ในวัดต่างๆ ทั้งมหายาน และเถรวาท ที่ คณะ พ.ส.ล.ไปเยือนและถวายสักการะพระเถระแต่ละวัดเป็นอย่างดีเยี่ยม
จนสามารถพูดได้ว่า มีความอบอุ่น และให้เกียรติ อย่างคาดไม่ถึง เช่น พระเถระ ทิช ทัชตึ๊ก อายุ 101 ปี แห่งวัด
เถี่ยน เวียน ทิว อาพาธ ไม่ให้ใครพบ แต่ท่านนั่งวีลแชร์ ออกมาจากห้องพักให้คณะพ.ส.ล. กราบเพื่อความเป็นสิริมงคล
ท่าน ทิช ทัช ตึ๊ก ชำนาญในการสอน วิปัสสนา และ เซน มีสาวกติดตามมาก เช่นเดียวกับ ท่าน ทิช นัท ฮ้น แห่งหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส
วัดของท่านสะอาด ร่มรื่น สิ่งแวดล้อมดีเลิศ เหมือนวัด เซน ทั่วไป
ในส่วนของคณะสงฆ์แต่ละวัดที่ไปเยือน ผมสังเกตแบบคนที่เคยบวช ว่าพระมหายาน ซึ่งแต่ละวัดมีจำนวนมาก นั้น มีวัตรปฏิบัติงดงาม เป็นที่ตั้งศรัทธา ปสาทะของชาวพุทธทั่วไป
ในส่วนของบริเวณวัด สังเกตว่าเขารักษาความสะอาดมาก แม้ว่าพื้นที่วัดจะกว้างใหญ่เต็มไปด้วยไม้ยืนต้น และบอนไซ
ภายในโบสถ์ และวิหาร จะมีที่ประดิษฐาน เฉพาะพระศรีศากยมุนี เท่านั้น
ส่วนอุบาสก อุบาสิกา ที่เข้าวัดไม่ค่อยเห็นผู้สูงวัย ตรงกันข้ามจะพบเห็น วัยรุ่น หนุ่มสาวมาทำบุญและปฏิบัติธรรมกันมาก
จึงพูดได้ว่า ศาสนาพุทธในเวียตนาม จะเจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง แม้ว่าจะปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม คอมมูนิสต์ ก็ตาม
