ทีมเศรษฐกิจไทย-น่าน ยก “ผู้กองธรรมนัส” เป็น “ทักษิณ 2” ทวงศักดิ์ศรีชาวเหนือบริหารประเทศ
ว่าที่ผู้สมัครส.ส.น่าน เขต 3 พรรคเศรษฐกิจไทย เชียร์ผู้กองธรรมนัส เป็น “ทักษิณ 2” วิสัยทัศน์แก้ปัญหาแบบกล้าพูด กล้าทำ กล้าชน พร้อมใจส่งทวงศักดิ์ศรีเพื่อคนเหนือ ซัดรัฐบาลเล่นเกมบริหารประเทศ สร้างหนี้พอกพูน – แก้ปัญหาด้วยวิธีกู้ แถมกั๊กกระจายงบฯ ให้ท้องถิ่น ปล่อยนายทุนโกยกำไรอยู่บนยอดปิระมิด จนประเทศไม่เจริญ ขายทั้งประเทศก็ยังไม่พอฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีลงพื้นที่จ.น่าน ของทีมงานพรรคเศรษฐกิจไทย นำโดยร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 และและนายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา เขต 3 ในฐานะแกนนำขับเคลื่อนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 หลังจากกิจกรรมพบปะมวลชนกลุ่มต่างๆ และติดตามโครงการต่างๆอ.ท่าวังผาแล้ว ต่อมาเดินทางไปโรงแรมฮักปัว โฮเทล อ.ปัว จ.น่าน มอบถุงยังชีพเยียวยาผู้เดือดร้อนโรคระบาด โควิด-19 และแลกเปลี่ยนนโยบายของพรรคกับรับฟังปัญหาประชาชน นักธุรกิจ นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เลือกตั้งส.ส.น่าน เขต 3 ซึ่งวางตัวผู้สมัครของพรรคไว้แล้ว คือนายฉัตรชัย จิตรตรง อดีตนายกสมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จ.น่าน และอดีตที่ปรึกษาของนายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) น่าน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนสนับสนุนคนเมืองเหนือ จะต้องได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างจริงจัง แต่ภาษีขื้นแล้วขึ้นอีก ค่าอากรแสตมป์ จะต่อใบอนุญาตยากมาก สรรพสามิตกวดขันเหล้าขาวพื้นบ้าน ตนเห็นชาวบ้านต้มเหล้ามาตั้งแต่เกิด งานบุญงานปอยต่างๆ ก็เลี้ยงกันด้วยเหล้าขาว ไม่ต้องเสียตังค์ไปซื้อเหล้านายทุน แต่ทำไมไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐ ศักดิ์ศรีของความเป็นเมืองเหนือมันหายไปไหน คำตำหนิติเตียนของส.ส.ฝ่ายค้าน ผู้นำรัฐบาลไม่สนใจแล้วบ้านเมืองจะเจริญได้อย่างไร
“ระบบการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นายกอบต. เทศบาล อบจ.แต่ไม่กระจายงบประมาณให้เขากลายเป็นรัฐเป็นศูนย์กลางควบคุมไว้ ถามว่าส.ส.ฝ่ายค้านบ้านเราทำอะไรได้ไม่ได้เลย ดังนั้นการพัฒนาสร้างบ้านแปลงเมือง จำเป็นต้องสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์และเข้มแข็ง” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว และว่าในการแปรญัติงบฯ ปี 2565 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท บริหารประเทศทั้ง 77 จังหวัด เป็นเงินจากจัดเก็บภาษีรายได้ทุกอย่างของคนทั้งแผ่นดิน
ขณะที่ปี 2564 จัดเก็บได้ 2.4 ล้านล้านบาท ต้องใช้เงิน 3.2 ล้านล้านบาท อีก 8 แสนล้านบาทต้องกู้ รัฐบาลนี้กู้ๆๆ อย่างเดียว มาถึงปัจจุบันประเทศไทยเป็นหนี้อยู่ถึง 24.6 ล้านล้านบาท ซื้อขายประเทศทั้ง 77 จังหวัดก็ยังไม่สามารถชำระหนี้ได้
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า ลูกเกิดมาต้องเป็นหนี้ 4 แสนบาท เรื่องน่ากลัวใกล้ตัวที่เราต้องรู้ และที่เลวร้ายกว่านั้นปี 2565 นี้ ภาษีเพิ่งเก็บได้ 1.2 ล้านล้านบาท เท่ากับรัฐต้องหาเงินอีก 2 ล้านล้านบาทแล้วจะเอามาจากไหนนอกจากต้องกู้มาอีก มีแต่กุ๊กกู้ๆ ตายเลยประเทศไทย ฉะนั้นตนมาวันนี้อยากมาเชิญชวนผู้นำทั้งหลาย รวมถึงหอการค้า ชาวบ้าน ตื่นขึ้นมากู้ศักดิ์ศรีของคนล้านนา ที่สมัยก่อนมีอาณาจักรตีไปถึงสิบสองปันนา ประเทศลาว พม่า และทางใต้ลงไปถึงมาเลเซีย เดี๋ยวนี้คนเมืองเหนือจะพูดอะไรก็ไม่ถนัด ทุกข์อยู่เรื่อย
“พี่น้องที่รวมกลุ่มกันทำสุราพื้นบ้าน แม้แต่การปลดล็อคผ่านกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือคนรากหญ้ากลับเล่นเกมในสภา ดึงเข้า ครม. ให้ชะลอกฎหมายเลือกตั้ง พวกผมพรรคเศรษฐกิจไทย18 คนไม่เห็นด้วย ควรปลดล็อคเพราะคนเมืองเหนือ อีสานมาหาให้ช่วยรากหญ้า คนอย่างธรรมนัส พรหมเผ่า กล้าพูด กล้าทำ กล้าชน แม้ส.ส.อีสานเป็นพรรคใหญ่ 132 ที่นั่ง บ่นให้ไปอยู่พรรคเขาดีกว่า ผมตอบว่าไปอยู่ไม่ได้ ต้องตั้งพรรคใหม่ สร้างการเมืองแบบใหม่ เป็นความหวังของคนทั้งแผ่นดินให้ได้”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ตนไปพูดที่ไหนคนมักนึกว่าโครงสร้างประเทศไทยคือขวานทอง ที่พวกเราเป็นสันขวาน ทางอีสานเป็นคมขวาน จังหวัดทางภาคใต้เป็นด้ามขวาน มันไม่ใช่แต่คือสามเหลี่ยมปิระมิด เท่ากัน 3 ด้าน ฐานรากคือพวกเรา เปรียบเสมือนเวลาสร้างตึก สร้างบ้าน มันต้องแน่น ไม่เช่นนั้นเวลาแผ่นดินไหวขึ้นมาก็เรียบร้อยล้มเลย ส่วนปลายปิระมิดคือกลุ่มทุนถ้าไม่มีพวกเราอยู่ มันก็อยู่ไม่ได้ ยกตัวอย่างบริษัทขึ้นต้นด้วยตัวซี รวยมาจากพืชผลทางเกษตรทั้งนั้น
“ขายปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ที่พวกเราปลูกสารพัด ขายพันธุ์หมู พันธุ์ไก่ที่เป็นหมัน แม้กระทั่งผูกขาดสุราเจ้าของใหญ่ที่สุดก็อยู่ปลายปิระมิด ขายน้ำ ขายไฟก็เจ้าสัวทั้งนั้น สาเหตุที่รัฐบาลเล่นเกมสุราพื้นบ้านเพราะมาจากเจ้าสัว ขณะที่เหล้าสาเกของญี่ปุ่นสร้างรายได้มหาศาลให้กับท้องถิ่น“
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ร.อ.ธรรมนัสกล่าวบรรยายดีงกล่าว และเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมเสวนาเสนอปัญหาต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ำ ที่ดินทำกิน เปิดรับแรงงานจากชายแดนให้ถูกกฎหมาย รวมถึงสลากกินแบ่งที่เป็นความหวังประชาชนแต่ราคาแพง ซึ่งฝากไว้ให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ประสานงานต่อไปนั้น นายฉัตรชัย ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.น่าน เขต 3 พรรคเศรษฐกิจไทย ลุกขึ้นกล่าวรับปากพร้อมร่วมงานกับร.อ.ธรรมนัส เพระชอบวิสัยทัศน์คือ “ทักษิณ 2” และกล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเลือกตนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ยืนเคียงข้างกับขุนพล โดยตลอดการลงรับทราบปัญหาหลักในพื้นที่คือแหล่งน้ำ โดยผันจากแม่น้ำสายหลักขึ้นมาใช้ สร้างอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ ฯลฯ