จีน-อินโดนีเซีย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจโค วีโดโด (Joko Widodo) ของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ ๑๑ ม.ค.๖๕ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่ปีที่แล้ว ความสัมพันธ์จีน–อินโดนีเซีย ได้ฝ่าฟันแนวโน้มและมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งสองประเทศได้เปิดตัวกลไกการเจรจาและความร่วมมือระดับสูง รวมทั้งสร้างรูปแบบใหม่ของความร่วมมือทวิภาคีใน “ขับเคลื่อนสี่ล้อ” (“四轮驱动”) ของกิจการทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเดินเรือ ซึ่งจีนและอินโดนีเซียเป็นทั้งประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญตลอดจนมีอุดมการณ์และความเชื่อที่คล้ายคลึงกันในการใฝ่หาการพัฒนาประเทศในการแสวงหาความสุขเพื่อประชาชนเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และการระบาดใหญ่ที่เคยพบมาก่อนในศตวรรษนี้ ทั้งสองประเทศควรพยายามสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรมให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
๒. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นว่า ทั้งสองฝ่ายควรทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดและสร้างแบบอย่างของความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยจีนจะร่วมมือกับอินโดนีเซียต่อไปในห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัคซีนทั้งหมดรวมถึงการวิจัยและพัฒนายา อีกทั้งช่วยอินโดนีเซียสร้างศูนย์การผลิตวัคซีนระดับภูมิภาค ส่งเสริมการปรับปรุงธรรมาภิบาลด้านสาธารณสุขทั่วโลกและการสร้างประชาคมด้านสาธารณสุขบนพื้นฐานของการร่วมมือ ความพยายามในการต่อสู้กับโรคระบาดทั้งสองฝ่ายควรพัฒนาร่วมกันและกำหนดมาตรฐานสำหรับความร่วมมือในทางปฏิบัติ จำเป็นต้องรวมการสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (“一带一路”) ร่วมกันกับการสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ของจีน ตลอดจนแผนพัฒนาระยะกลางและระยะยาวระดับชาติของอินโดนีเซียประสานงานส่งเสริมความร่วมมือหลังโรคระบาด เพื่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา–บันดุงให้มีคุณภาพสูง ดำเนินการตามโครงการสำคัญๆ เช่น “ระเบียงเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค” (“区域综合经济走廊”) รวมทั้ง “สองประเทศและสวนสาธารณะคู่“ (“两国双园”) ส่งเสริมพื้นที่การเติบโตใหม่ๆ เช่น พลังงานใหม่ คาร์บอนต่ำ เศรษฐกิจดิจิทัล และความร่วมมือทางทะเล โดยจีนจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในทุกจุดแข็งที่เอื้อต่อการส่งเสริมการพัฒนาของอินโดนีเซีย และกระชับความร่วมมือระหว่างจีน–อินโดนีเซีย
๓. ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการประชุมเต็มคณะครั้งที่ ๖ ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ ๑๙ โดยเชื่อว่าการค้าและการลงทุนทวิภาคีระหว่างอินโดนีเซียและจีนภายใต้การนำของนายสี จิ้นผิงจะเติบโตอย่างรวดเร็วและความร่วมมือด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในการผลิตวัคซีน การวิจัยและพัฒนายาได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง โดย ๘๐% ของวัคซีนในอินโดนีเซียมาจากประเทศจีน การก่อสร้างทางรถไฟจาการ์ตา–บันดุงคืบหน้าไปอย่างราบรื่น และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดได้ตามกำหนด ความสัมพันธ์อันดีระหว่างอินโดนีเซียกับจีนตั้งอยู่บนการเคารพซึ่งกันและกัน เป็นความร่วมมือแบบ win-win อินโดนีเซียยินดีกระชับความร่วมมือกับจีนในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการต่อต้านการแพร่ระบาด ส่งเสริมการก่อสร้างร่วมของ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” อย่างแข็งขัน และสร้าง “ระเบียงเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค” รวมทั้ง “สองประเทศและสวนสาธารณะสองแห่ง” ” และยินดีให้ผู้ประกอบการจีนลงทุนในอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในด้านอื่นๆ ในฐานะประธานของ G20 ในปีนี้อินโดนีเซียยินดีที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับจีนเพื่อส่งเสริม G20 ให้มีบทบาทอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความสามัคคีของประชาคมระหว่างประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกนอกจากนี้ ยังได้อวยพรให้ชาวจีนมีความสุขในเทศกาลตรุษจีน และความสำเร็จของจีนในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง
บทสรุป นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับบทบาทของอินโดนีเซียในกิจการระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ และพร้อมจะทำงานร่วมกับอินโดนีเซียเพื่อดำเนินการตามมติที่บรรลุถึงในการประชุมสุดยอดรำลึกถึงจีน–อาเซียนเมื่อปีที่แล้ว ส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค และปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค โดยในปีนี้ จีนเป็นประธานของกลุ่ม BRICS และอินโดนีเซียเป็นประธานของกลุ่ม G20 ซึ่งจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับอินโดนีเซียเพื่อปฏิบัติพหุภาคีอย่างแท้จริง ดำเนินโครงการพัฒนาระดับโลกอย่างแข็งขันปกป้องผลประโยชน์ของตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งมีส่วนสนับสนุนการฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และการปรับปรุงธรรมาภิบาลเศรษฐกิจโลก
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์www.chinaembassy.or.th/zgyw/202201/t20220111_10481027.html )