ท่านจันทร์เนรมิตรโรงเลี้ยงหมูเดิมให้เป็นป่ารมณียสถาน ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน ภายใต้การนำของ ท่านจันทร์ จันทเสฏโฐ ได้สร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการเนรมิตโรงเลี้ยงหมูเดิมที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ให้กลายเป็น “ป่าไม้ในพุทธประวัติ” อย่างน่าอัศจรรย์
จากการที่ ทวีศักดิ์ โชคธนานุกูลและทายาทประกอบด้วยธนพรรณ โชคธนานุกูล (ภรรยา) และบุตรชายคนโตชื่อหนุ่ม บุตรสาวคนกลางชื่อกิ่งกาญจน์(เปิ้ล) และบุตรชายสุดท้องชื่อหนึ่ง ถวายที่ดินประมาณ 10 ไร่และสิ่งปลูกสร้างที่เคยเป็นโรงเลี้ยงหมูในอำเภอโพธาราม ราชบุรี ให้ท่านจันทร์ และโอนให้มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2567 นั้น 
ท่านจันทร์ หรือสมณเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ แห่งสำนักสันติอโศก จึงเนรมิตรสถานที่เคยเป็นโรงเลี้ยงหมูให้เป็นป่ารมณีสถาน โดยใช้ที่ว่างส่วนใหญ่ปลูกต้นไม้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติเช่นต้นโพธิ์ ต้นไทร เป็นพนาไพรฟื้นฟูธรรมชาติอย่างชาญฉลาด ลึกซึ้ง
หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของการเปลี่ยนแปลง คือการแปรสภาพบ่อทิ้งมูลหมูให้เป็นสระน้ำใสสะอาดชื่อว่า “บ่อเว้า” และการนำอิฐ หิน ดิน ปูน ทราย จากโรงหมูเก่าที่ถูกรื้อถอน มาถมเป็นเนินสูงเรียกว่า “ภูเขาว่า”
ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยปัญญา ความเพียร และเจตนารมณ์อันแน่วแน่
ท่านจันทร์ว่ากว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นในเวลาปีเศษ มูลนิธิฯใช้จ่ายไปแล้วประมาณ 500,000 บาท
เมื่องานเดินหน้าพอสมควร คณะศิษย์และผู้ใกล้ชิดจึงชักชวนจัดฉลองวันเกิดปีที่ 61 ให้ท่านจันทร์ แต่จัดล่วงหน้า 2 วัน(วันคล้ายวันเกิดตรงกับวันที่ 15 ธันวาคม) ที่ป่าโพธาราม
โดยจัดให้แตกต่างจากวันเกิดของบุคคลทั่วไป
คือจะเน้นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิใช่หลงวันเกิดที่เป็น’ชาติปิ ทุกขา’ (การเกิดเป็นทุกข์)
พิธีได้เริ่ม
ที่ป่าโพธาราม
ในช่วงค่ำวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 17.55 น.
บนภู’เขาว่า’
เริ่มพิธีตอนค่ำ แดดร่มลมตกบน ‘เขาว่า’ที่สูงพอสมควร อากาศจึงเย็นสบาย
ท่านจันทร์อธิบายการตั้งชื่อสระน้ำว่า ‘บ่อเว้า’ เพื่อให้สังคมรู้จักเงียบเมื่อถูกผู้อื่นว่ากล่าว สังคมจะเป็นสุข
ส่วนภู’เขาว่า’ ท่านจันทร์ว่าผู้มีอำนาจในจังหวัดเรียก ว่า ‘ผู้ว่า’มีอำนาจว่ากล่าวตักเตือนประชาชน
อย่างไรก็ตามผู้คนในสังคมมักชอบว่า (ผู้อื่น)
ท่านจันทร์แนะนำว่าเมื่อถูกว่า อย่าหวั่นไหว ดังพุทธภาษิตว่า ‘เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ เอวํ นินฺทาปสํสาสุ น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา’ แปลว่า ‘ภูเขาหินแท่งทึบไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวต่อคำนินทาและสรรเสริญ ฉันนั้น’
เพื่อทราบความเห็นของผู้คนที่
ชุมนุมนั้นว่า คิดอย่าง และรักษาอารมณ์อย่างไรเมื่อเขาว่า ?
แต่ละท่านตอบต่างกัน เช่นบางท่านใช้ความเงียบมาสยบ บางท่านวิเคราะห์ที่เขาว่านะจริงหรือ ถ้าจริงก็แก้ไข
ส่วนท่านที่เป็นครู-อาจารย์ หรือนายทหาร ได้บอกว่ามีทั้งถูกเขาว่า และว่าเขา ถ้าเขาว่าก็ตอบโต้บ้างแล้วแต่กรณี
ขณะที่สตรีบางท่านบอกว่าไม่ทนให้ใครว่า ถ้ามีโอกาสต้องโต้ตอบ เพราะเป็นคนไม่ยอมคน บางท่านใช้ความอดทน
เช่นเดียวกับผู้เขียนนอกจากอดทนแล้ว จะคิดว่าเพราะเมตตาเราเขาจึงว่า สบายใจดี
ท่านจันทร์พอใจกับคำตอบและบรรยากาศ จึง บอกว่าอยากจัดแบบนี้บ่อยๆ
อย่างไรก็ตามงานฉลองป่าโพธารามได้จัดแบบผู้มี’ความกตัญญู กตเวที’ กล่าวคือจัดพิธีฝังอัฐิ ทวีศักดิ์ โชคธนานุกูล เจ้าของที่ดินและโรงเลี้ยงหมู ณโคนต้นโพธิ์ ต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ท่ามกลางทายาทและสหายธรรม
ร่วมเป็นเกียรติ
โดยคาดหวังว่าที่นี้จะเป็นป่าไม้เขียวชะอุ่ม ซึ่งท่านจันทร์ตั้งปณิธานว่าจะปลูกป่าบนที่ดินที่ญาติธรรมบริจาคทุกแปลง โดยเน้นพรรณไม้ที่เกี่ยวกับพุทธประวัติเพื่อทดแทนแผ่นดิน
ท่านจันทร์หรือสมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ แห่งสันติอโศกที่เป็นมิตรกับทุกคน ทุกชั้นวรรณะ มีชื่อเสียงเกียรติคุณทาง
ด้านนักเทศน์และเผยแผ่พระพุทธธรรมคำสอนในสถาบันและองค์กรต่างๆ ที่นิมนต์เสมอ
ที่โดดเด่นหาผู้เทียบยากคือบรรยายธรรมในรายการเพื่อนช่วยเพื่อนทางวิทยุกรมการพลังงานทหารมานานกว่า 30 ปี ถึงทุกวันนี้ จึงเป็นที่รู้จักของสังคมทั่วไป
ทำให้ผู้ศรัทธาที่จะถวายที่ดินเพื่อปลูกป่าต้องนึกถึงท่านจันทร์ก่อนเสมอ
ผลคือท่านจันทร์หรือมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อนมีที่ดินมากถึง 22 แปลง และแปลงที่ใหญ่ที่สุด ราคาแพงที่สุดคือป่าโพธาราม ราชบุรี อดีตที่เคยเป็นโรงเลี้ยงหมูเดือนละ 20,000 ตัว แห่งนี้นี่เอง.

โดย สมาน สุดโต
