ผู้ว่าฯ มุกดาหาร เดินหน้าจัดงานกาชาดแม้มีประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด ชี้เศรษฐกิจต้องไม่ล่มสลาย
เมื่อวันที่ 7 มกราคม สืบเนื่องจากได้จังหวัดมุกดาหารประกาศเดินหน้าจัดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 7-15 มกราคม ทั้งที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 และคัตเตอร์โควิดในจังหวัดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ยกระดับมาตรการแจ้งเตือนภัยโควิด จากเดิม ระดับ 3 เป็น ระดับ 4 มีการเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัยในสถานที่นั้น และการชะลอการเดินทางต่างๆ เช่น การเดินทางไปทำงาน การจำกัดการรวมกลุ่มต่างๆที่จะต้องมีข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อชะลอการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด แต่จังหวัดมุกดาหารกับไม่ยกเลิกการจัดงานกาชาดและของดีจังหวัด จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19
นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงเหตุผลที่ไม่ยกเลิกการจัดงานกาชาดและของดีจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 7-15 มกราคม ว่า ผมในฐานะที่เป็นผูรับผิดชอบการบริหารราชการในจังหวัดขอเรียนว่า การพิจารณาออกหรือกำหนดนโยบายต่าง ๆ ต้องมองให้ครอบคลุมในทุกๆมิติ มิไช่มองเพียงด้านใดด้านหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงมิติด้านอื่น ๆ เช่นมีบางท่านห่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แก้ไขง่ายครับ คือ ประกาศปิดทุก ๆที่ที่มีความเสี่ยง ห้ามออกจากบ้าน งดการสมาคม มิติด้านสาธารณสุขสำเร็จครับ แต่มิติด้านเศรษฐกิจ จะเป็นอย่างไรครับ แค่ผมสั่งปิดร้านอาหาร The pool ตลาด Night Box และตลาดมารวย แค่ 3 วันยังเดือดร้อนกันไปทุกวงการ ท่านช่วยตอบผมหน่อยว่าจะปล่อยให้เศรษฐกิจมุกดาหาร ล่มสลายใช่ไหม การอนุญาตให้มีการจัดงาน ในทุก ๆ งานมีจุดประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชน ได้มีพื้นที่ในการค้าขายเพิ่มขึ้น มีรายได้เจือจุนครอบครัวให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ได้ พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดราตรี เสนอความต้องการในการเปิดการค้า การขาย ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงงานกาชาดปิด ผมก็เห็นชอบ เพราะจะทำให้พ่อค้า แม่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น ระบบเศรษฐของจังหวัดดีขึ้น ท่านเห็นว่าควรเห็นชอบให้เปิดตลาดราตรีไหม
นายเฉลิมพล กล่าวว่า ในการจัดงานต่าง ๆ เรามีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อพิจารณาว่าสามารถจัด และดูแลได้ไหม ทางสาธารณสุขว่าอย่างไร กำหนดมาตรการอย่างไร จึงจะพิจารณาอนุญาต ผมขอให้พี่น้องประชาชนชาวมุกดาหาร ต้องอยู่กับโรคติดต่อทุกสายพันธุ์ให้ได้ อย่าหวาดกลัวจนไม่กล้าที่จะทำอะไร แล้วชีวิตท่านจะไม่มีความสุข ขอให้ท่านมั่นใจในทีมสาธารณสุขของจังหวัดมุกดาหาร มาฉีดวัคซีนเข็ม 2 หรือ เข็ม 3 อย่าการ์ดตกเวลาออกจากบ้าน เท่านี้ท่านก็จะปลอดภัย ท่านต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ หากเกิดการ แพร่ระบาดจริง ๆ ขอให้เชื่อมั่นในทีมงานของสาธารณสุขว่าสามารถเข้าควบคุมได้ในทุกๆคลัสเตอร์ ซึ่งที่ผ่านๆ มาเห็นได้ว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจาก 2 มิติ ที่กล่าวมาแล้วถ้ามองมิติอื่นๆ เช่น ครัวเรือน หากปิดสถานที่เสี่ยงสักที่หนึ่ง จะมีคนตกงานอีกเท่าไร ครอบครัวของคนเหล่านั้นจะกระทบอีกเท่าไร แล้วคนเหล่านี้จะมีรายได้จากที่ไหน สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาสังคมตามมา กระทบกับมิติด้านความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนอีก ยังมีมิติอื่น ๆ ที่ต้องมองก่อนการตัดสินใจ
“การจัดงานกาชาดก็เป็นการทำเพื่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารเอง รายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่ทุกอำเภอช่วยเหลือมาก็เพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน ทั้งจังหวัด ผมจึงอยากให้ทุก ๆ ท่านมองกลับด้านดูบ้างว่าเราจะอยู่อย่างหวาดกลัวจนอดตาย หรือจะปรับตัวอยู่สู้กับโรคโควิด 19 ให้รู้สึกเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เราหันมารักมุกดาหารคืนความสุขที่ขาดหายไปกว่า 2 ปีกันได้ไหม อย่าให้คนที่เขาอยู่รอบนอกมองเราไม่ดีเลย ข่าวการทำความดีมีเยอะแยะ คนทำไม่ดีไม่กีคน ควรจะตำหนิเขามากกว่าประโคมข่าวจนดูว่าเมืองมุกดาหารแย่มากๆ เห็นใจคนที่เขาทำงานบ้าง รักมุกดาหาร ปกป้องมุกดาหารกันบ้างครับ” นายเฉลิพลกล่าว