“มหานิยม” ส.ส.สกลนคร ตรวจสอบ”ภูผายล”หลังมีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าฝ่าฝืนปรับ 1 แสน*

ดร.นิยม เวชกามา ..สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ฉายามหานิยมนำผู้เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบผาด่าง เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล (อุทยานแห่งชาติภูผายล หรือเดิมเรียกว่าอุทยานแห่งชาติห้วยหวด มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอโคกศรีสุพรรณอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม และอำเภอดงหลวง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร) ที่ถูกปิดประกาศห้ามเข้าหากฝ่าฝืนปรับ 1 แสน ชี้ควรอนุโลมให้ชาวบ้านเกิดรายได้

ทั้งนี้ ดร.นิยม เวชกามา พร้อมด้วย นายดลจินดา โมธรรม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนครปลัดอาวุโส .โคกศรีสุพรรณ อส.อำเภอโคกศรีสุพรรณ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายลกำนัน .ตองโขบ และชาวบ้าน เดินทางไปสำรวจตรวจสอบบริเวณผาด่าง ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า อุทยานแห่งชาติภูผายลได้ปิดประกาศห้ามมิให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านขึ้นไปบริเวณผาด่างโดยเด็ดขาดหากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 100,000 บาท ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้จากการหาของป่ามาขาย ขาดรายได้จากการจำหน่ายสินค้าขาดรายได้จากการนำทาง ซึ่งน่าจะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งของ .โคกศรีสุพรรณ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าบริเวณผาด่างต้องเดินขึ้นไปจากเชิงเขา ระยะทางประมาณ 4 กม.ตลอดเส้นทางบางแห่งร่มรื่นบางแห่งเป็นลานหิน มีถ้ำซึ่งเป็นที่หลบซ่อนของขบวนการเสรีไทยในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ 1 องค์ ด้านบนเป็นลานหินและมีโขดหินยื่นออกไปจากหน้าผา

ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า ถ้ำภูผาด่างอยู่ในเขตพื้นที่ของบ้านห้วยหีบยุคสมัยนายเตียง ศิริขันธ์ ขุนพลภูพาน หัวหน้าขบวนการเสรีไทยสายอีสาน ตนเห็นว่าบรรยากาศน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้อีกที่หนึ่งของ .สกลนคร ธรรมชาติ 100% คนจะขึ้นมาตรงนี้ต้องมาด้วยอยากมาดูธรรมชาติ เพราะถ้ำผาด่างเป็นถ้ำธรรมะ และธรรมชาติ ผาด่างที่เป็นรอยเกิดจากน้ำฝน ตนจะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อหาทางเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เมื่อมาดูแล้วเห็นว่าน่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น  แต่ปัญหามันก็มีตรงที่ว่า ถ้านักท่องเที่ยวขึ้นมา ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลด้วย เพราะว่ามันเป็นป่าบนภูพาน

จริงๆ ถ้านักท่องเที่ยวมาแล้วต้องมาอยู่ในขอบเขตจำกัดของอุทยานฯด้วย และต้องไม่เกิดปัญหาของสภาพแวดล้อมด้วย  แล้วตรงนี้เป็นหน้าผาที่สูงชันมาก ถ้าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ หรืออยู่ในวินัยก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุตกหน้าผาตาย ก็ต้องฝากนายวราวุธ ว่าน่าจัดสรรในส่วนที่ให้ชาวบ้านมาอยู่กับธรรมชาติ มาค้างคืน มาตั้งเต็นท์ได้ คนที่มาต้องตั้งใจมาด้วย จอดรถที่ด้านล่างแล้วเดินขึ้นมา 3-4 กิโล เมตร ต้องเอาข้าวปลาอาหารขึ้นมารับประทานด้วย ธรรมชาติที่สุดไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ขอฝากท่านอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย  ซึ่งประเด็นคือว่าทางอุทยานฯ ยังไม่ให้คนขึ้น  เพราะกลัวไม่ปลอดภัย เรื่องนี้จะต้องพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน สรุปว่า .โคกศรีสุพรรณ ก็จะได้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เศรษฐกิจในชุมชนก็จะดีขึ้นด้วยดร.นิยม กล่าว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า